คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์เพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแพ่ง เนื่องจากจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาลแพ่งและมูลคดีมิได้เกิดในเขตศาลแพ่ง คำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวย่อมมีความหมายเป็นอย่างเดียวกันกับคำว่าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลตาม ป.พ.พ. มาตรา 176(เดิม)หาใช่ต้องเป็นกรณีที่ศาลรับฟ้องไว้แล้ว ภายหลังต่อมาจึงพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาไม่ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ก่อนครบกำหนดอายุความสองวัน จึงต้องขยายอายุความออกไปถึงหกเดือนภายหลังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อเสาเข็มคอนกรีตจากโจทก์โจทก์ส่งมอบและตอกเสาเข็มเรียบร้อยแล้วแต่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้ ขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้จำนวน 377,459 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะมิได้ฟ้องภายใน 2 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 377,459 บาทพร้อมดอกเบี้ย เฉพาะดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้องต้องไม่เกินจำนวนที่โจทก์ขอคือ 56,386.16 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว…มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยในประเด็นสุดท้ายว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายเสาเข็มคอนกรีตตามฟ้อง ซึ่งมีกำหนดเวลาให้ชำระราคาเสาเข็มคอนกรีตส่วนที่เหลือภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตอกเสาเข็มเสร็จ ปรากฏว่าโจทก์ตอกเสาเข็มเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2526 จึงครบกำหนดชำระราคาเสาเข็มคอนกรีตส่วนที่เหลือจำนวน 377,459 บาทภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2526 แต่จำเลยไม่ชำระ อายุความย่อมเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2526 เป็นต้นไป โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2528 จึงยังไม่พ้นกำหนดอายุความ2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) (มาตรา193/34(1) ใหม่) แต่ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์เพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแพ่ง เนื่องจากจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาลแพ่งและมุลคดีมิได้เกิดในเขตศาลแพ่ง คำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวย่อมมีความหมายเป็นอย่างเดียวกันกับคำว่าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 (เดิม) หาใช่ต้องเป็นกรณีที่ศาลรับฟ้องไว้แล้ว ภายหลังต่อมาจึงพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาดังที่จำเลยฎีกาไม่ ดังนั้น เมื่อกำหนดอายุความในคดีของโจทก์จะครบ 2 ปี ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2528จึงเป็นกรณีที่อายุความจะสิ้นลงในระหว่างหกเดือนภายหลังที่คำพิพากษาหรือคำสั่งที่ไม่รับฟ้องถึงที่สุด จึงต้องขยายอายุความออกไปถึงหกเดือนภายหลังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ปรากฏว่าศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2528 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share