แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวงไว้โดยมิได้รับอนุญาต จำเลยรับสารภาพ ศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่าทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองปืนชนิดนี้จดทะเบียนให้มีและใช้ได้ ยังมีราษฎรที่ได้รับอนุญาตมีและใช้ปืนนี้ได้อยู่
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม จะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯ ไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนเล็กสั้นแบบ ๘๓ ขนาด ๖.๕ ม.ม. ซึ่งเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวง (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๑ ข้อ (๓) ค. หนึ่งกระบอกไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๕, ๘
จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลสอบโจทก์ ๆ แถลงว่า อาวุธปืนชนิดนี้ทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองจดทะเบียนให้มีและใช้ได้ เวลานี้ราษฎรที่ได้รับอนุญาตนั้นก็ยังมีและใช้ได้อยู่
ศาลชั้นต้นเห็นว่า อาวุธปืนตามฟ้องมิใช่อาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในสงครามอันแท้จริงตามที่กฎหมายประสงค์จะลงโทษ จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนธรรมดา พิพากษาลงโทษฐานนี้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ได้ความตามฟ้องและคำให้การว่า ปืนที่จำเลยมีไว้เป็นอาวุธสำหรับใช้เฉพาะการสงครามตามกฎกระทรวงฯ (ฉบับที่ อ้างในฟ้อง) พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ห้ามมิให้บุคคลมีอาวุธปืนดังกล่าว เมื่อจำเลยมีไว้ก็มีความผิดตามฟ้อง ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ถือว่าอาวุธปืนสงครามร้ายแรงไม่ประสงค์ให้ประชาชนมีไว้ได้ โดยพิเคราะห์ว่าเป็นอาวุธปืนสงครามที่กฎกระทรวงฯ บัญญัติไว้หรือไม่เท่านั้น เมื่อเป็นแล้ว แม้ทางราชการเคยอนุญาตให้ประชาชนจดทะเบียนได้ ก็ไม่มีผลลบล้างกฎหมายดังกล่าว แต่มีผลเพียงที่ศาลจะใช้ดุลพินิจในการลงโทษให้เหมาะสมเท่านั้น จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมหมายความว่ารับว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้นี้เป็นอาวุธสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม แม้โจทก์จะได้แถลงดังกล่าวนั้น ก็ไม่เป็นเหตุที่จะอ้างขึ้นลบล้างกฎกระทรวงฯ ได้ คงมีผลเพียงเพื่อใช้ดุลพินิจในการลงโทษให้เหมาะสมเท่านั้น ดังที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้
พิพากษายืน