แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทโดยอ้างว่าฝากให้จำเลยอยู่อาศัยดูแลแทน จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ขายเรือนพิพาทแก่จำเลย ขอให้โจทก์แก้ทะเบียนเรือนเป็นของจำเลย ถ้าไม่โอนขอให้คืนเงินค่าซื้อเรือนและค่าซ่อมแซมบ้านที่จำเลยซ่อมแซมเพิ่ม ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาฟังว่าโจทก์ฝากเรือนไว้กับจำเลยและจำเลยได้ซ่อมแซมเรือนนี้+ศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ชดใช้เงินค่าซ่อมแซมแก่จำเลยและให้จำเลยออกจากเรือนพิพาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ฝากเรือน ๑ หลัง ราคา ๒๐๐ บาท ให้จำเลยซึ่งเป็นน้องอยู่อาศัยและดูแลแทน โดยโจทก์มีความจำเป็นต้องย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ต่างจังหวัด ครั้นต่อมาโจทก์จะเข้าอยู่ในเรือนหลังนี้ จำเลยไม่ยอมออกจากเรือน กลับอ้างเอาเรือนเป็นกรรมสิทธิ์ จึงขอให้ขับไล่จำเลย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า เรือนพิพาทผุพังใช้อาศัยเกือบไม่ได้ โจทก์ตกลงขายให้จำเลย ๘๐ บาท จำเลยจึงซ่อมแซมเพิ่มเติมเป็นราคา ๑๖๐ บาท ครอบครองมาจนบัดนี้ ขอให้ศาลศาลบังคับดจทก์ให้โอนแก้ทะเบียนเรือนเป็นของจำเลย ถ้าไม่โอนก็ขอให้คืนเงิน ๘๐ บาท กับขอค่าซ่อมแซมเพิ่มเติมอีก ๑๖๐ บาท
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยรับฝากเรือนไว้จริง จึงพิพากษาขับไล่จำเลย ส่วนค่าซ่อมแซมนั้นจำเลยมิได้ฟ้องเรียกเป็นค่าใช้จ่าย เพราะเหตุบำรุงรักษาทรัพย์ จำเลยจึงเรียกไม่ได้
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้ขายเรือนให้แก่จำเลยจึงพิพากษากลับยกฟ้องให้โจทก์โอนเรือนให้แก่จำเลย ถ้าไม่โอนให้ใช้ค่าซ่อมแซม ๑๖๐ บาท กับคืนเงิน ๘๐ บาทแก่จำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์ฝากเรือนแก่จำเลยจริง แต่ปรากฏว่าจำเลยซ่อมแซมเรือนที่รับฝาก โจทก์ต้องชดใช้ดังที่จำเลยฟ้องแย้งตาม ป.พ.พ.มาตรา ๖๖๘ จึงพิพากษาแก้ให้โจทก์ใช้เงิน ๘๐ บาทแก่จำเลย ให้จำเลยและบริวารออกจากเรือนพิพาท ค่าธรรมเนียมค่าทนายเป็นพับไปทั้ง ๓ ศาล