แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บทบัญญัติมาตรานี้ใช้บังคับรวมทั้งนิติบุคคลเช่น เทศบาลและจังหวัดด้วย.
การที่สร้างทางเดินเท้าผ่านหน้าที่ดินของบุคคลอื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของที่เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรแล้ว แม้ทางเดินเท้านั้นจะอยู่ในที่สาธารณะและเมื่อผู้สร้างสร้างแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะด้วย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1337 นี้อยู่
ย่อยาว
เรื่อง ละเมิด เรียกค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้สร้างสพานเป็นทางเดินเท้าริมคลองบางใส้ไก่ชิดติดกับที่ดินของโจทก์ ยาวผ่านเฉพาะหน้าที่นั้นประมาณ ๒๐.๕๐ เมตร โดยจำเลยที่ ๓ เป็นผู้อนุมัติ และจำเลยที่ ๒ อนุญาตให้ทำ กีดขวางหน้าที่ดินบ้านและห้องแถวของโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์และผู้เช่าห้องขึ้นลงใช้น้ำในคลองไม่สดวก กับทั้งได้สร้างคร่อมทับสพานน้ำของโจทก์ที่ทำไว้สำหรับขึ้นลงในคลองนั้นจนโจทก์ใช้สพานนี้ไม่ได้ โจทก์ได้บอกกล่าวให้รื้อถอนจำเลยก็เพิกเฉย ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์อันจะพึงได้จากผู้ที่จะมาเช่าห้องแต่รังเกียจด้วยขึ้นลงใช้น้ำไม่ได้ จึงไม่มีคนเช่าโจทก์ขาดเงินกินเปล่า ๓ ห้อง ๑๕,๐๐๐ บาท ค่าเช่า ๓ ห้องอีกเดือนละ ๓๐๐ บาท ขอให้บังคับรื้อสพานและให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหาย ๑๕,๐๐๐ บาท และค่าเช่าเดือนละ ๓๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อสพานเสร็จ
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ได้ปลูกสร้างสพานจริงแต่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะสพานนั้นอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์ ซึ่งเป็นที่สาธารณะมาตั้งแต่ต้นแล้ว การที่สร้างคร่อมสพานโจทก์เพราะสพานน้ำของโจทก์เป็นเพียงไม้ปูลาดลงไปก้นคลอง เป็นการยื่นล้ำลงไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำของจำเลยมิได้ทำให้โจทก์เสียหาย ห้องเช่าของโจทก์ว่างมานานก่อนจำเลยสร้าง สพานแล้ว
จำเลยที่๒-๓ ให้การว่า ได้อนุญาตและอนุมัติให้จำเลยที่ ๑ ทำสพานเป็นทางสาธารณะในที่สาธารณประโยชน์เพราะคลองตื้น จำเลยที่ ๑ และผู้ที่อยู่แถบนั้นไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ สพานนั้นไม่ได้ผ่านและกีดขวางที่ดินบ้านและห้องแถวของโจทก์ ๆ ไม่ได้รับความเสียหายดังฟ้อง จำเลยมีอำนาจสั่งอนุญาตให้ทำสพานทางเดินเพื่อประโยชน์สาธารณะได้โดยชอบด้วยกฎหมาย.
ศาลชั้นต้นไปดูที่เกิดเหตุแล้ว เห็นว่าสพานนั้นกีดขวางและปิดหน้าที่ดินของโจทก์ ขัดต่อประโยชน์ที่จะใช้สิทธิอันจะพึงมีต่อเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ โจทก์ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.๑๓๓๗ จำเลยที่ ๒-๓ ไม่มีอำนาจอนุญาตอนุมัติ แม้จะทำขึ้นในเขตทางสาธารณะ คำสั่งอนุญาตอนุมัตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่คดีฟังได้ว่าโจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสพานนั้น คำขออื่นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ว่าควรได้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ว่า สพานนี้ได้อุทิศเป็นทางสาธารณะแล้ว รูปคดีจะปรับด้วย ม.๑๓๓๗ ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องระหว่างสาธารณชนกับโจทก์ซึ่งเป็นเอกชน ทั้งมิได้กีดขวางปิดหน้าที่ดินโจทก์ๆ ไม่ได้เสียหาย
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๑๓๓๗ ใช้บังคับแก่บุคคลรวมทั้งเทศบาลนครธนบุรี และจังหวัดธนบุรี จำเลยที่ ๒ – ๓ ด้วย การสร้าง สพานนั้นปิดหน้าที่ดินของโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์เดือนร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร การที่จำเลยทำสพานขึ้นแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะนั้น ไม่ทำให้พ้นความรับผิดไปได้ ทั้งทางพิจารณาได้ความว่า การสร้างสพานรายนี้ เพื่อประโยชน์แก่เจ้าของที่ดินเพียง ๒ คน คือจำเลยที่ ๑ กับ น.ส.เบญจรูญ หาใช่เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่ พิพากษายืน