แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สัญญาค้ำประกัน ซึ่งจำเลยที่ 4 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม2525 ระบุว่าเป็นการค้ำประกันสัญญากู้เงินเบิกเกินบัญชีของจำเลยที่ 1 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2525 และเป็นสัญญาค้ำประกันหนี้ที่ทำขึ้นหลังจากที่มีการจดทะเบียนจำนองที่ดิน ซึ่งจดไว้เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2524 กรณีถือไม่ได้ว่าสัญญาค้ำประกันเป็นสัญญาอุปกรณ์ของสัญญาจำนอง เมื่อหนี้ตามสัญญาค้ำประกันยังมีอยู่จำเลยที่ 4 ผู้ทำสัญญาค้ำประกันจึงต้องรับผิดตามที่ได้เข้าผูกพันตนในฐานะผู้ค้ำประกัน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้คิดถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2529 จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์อยู่ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวม 3,304,696.05 บาทจำเลยที่ 2 ที่ 3ที่ 4 และที่ 5 ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1ด้วย โจทก์มีหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้และแจ้งบังคับจำนองให้จำเลยทั้งห้าทราบแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งห้าร่วมกันชำระเงินจำนวน 3,304,696.05 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้ยึดทรัพย์จำนองและทรัพย์สินของจำเลยทั้งห้าขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 4 เคยทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้หรือเบิกเงินเกินบัญชี และเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2524 ได้จดทะเบียนจำนองที่ดินของจำเลยที่ 4 เพื่อประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ไว้แก่โจทก์ในวงเงินไม่เกิน 300,000 บาท ต่อมาหนี้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ ตามที่จำเลยที่ 4 ได้ค้ำประกันไว้ได้ชำระหมดสิ้นแล้วสัญญาค้ำประกันจึงเป็นอันระงับไป จำเลยที่ 4 ไม่ต้องรับผิด และต่อมาโจทก์กับจำเลยที่ 4 ยังได้โปรดจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2526 ยอดหนี้ตามการ์ดบัญชีท้ายฟ้องนั้นเป็นหนี้ที่จำเลยที่ 1 มีต่อโจทก์ภายหลังที่จำเลยที่ 4 ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดแล้ว สัญญาค้ำประกันที่โจทก์ทำมานั้นเป็นเอกสารปลอมโจทก์ไม่มีสทิธิฟ้องให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 2,703,204.64บาทแก่โจทก์ พร้อมกับดอกเบี้ยใก้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 แต่ละคนรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 600,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ 3 และที่ 5 ร่วมกันรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1ชำระเงินจำนวน 500,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ย…
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 4 ได้ทำสัญญาค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามข้อความที่ปรากฏในสัญญาค้ำประกันเอกสารหมาย จ.17 จริง ปรากฏตามการ์ดบัญชีเอกสารหมาย จ.31 ว่า ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2525 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีตามสัญญากู้หมาย จ.14 นั้นจำเลยที่ 1 เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีอยู่กับโจทก์ตลอดมา เมื่อจำเลยที่ 4 เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระหนี้ต่อโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันตามที่กำหนดไว้ในสัญญาค้ำประกันหมาย จ.17 ส่วนที่จำเลยที่ 4 กล่าวอ้างว่าตามสัญญาค้ำประกันหมาย จ.17 มีความระบุไว้ในข้อ 9 ให้ถือเอาสัญญาจำนองลงวันที่ 11 ธันวาคม 2524 เป็นประกัน จึงเป็นกรณีที่เป็นการประกันด้วยทรัพย์ เมื่อมีการไถ่ถอนจำนองตามสัญญาจำนอง ลงวันที่ 11ธันวาคม 2524 แล้วจำเลยที่ 4 จึงพ้นความรับผิดนั้น เห็นว่าสัญญาค้ำประกันเอกสารหมาย จ.17 นั้น ทำขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2525ระบุว่าเป็นการค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ 1ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2525 ซึ่งเป็นสัญญาค้ำประกันหนี้ที่ทำขึ้นหลังจากที่มีการจดทะเบียนจำนองเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 ซึ่งจดทะเบียนจำนองไว้เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2524 กรณีจึงถือไม่ได้ว่าสัญญาค้ำประกันเอกสารหมาย จ.17 เป็นสัญญาอุปกรณ์ของสัญญาจำนองตามเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 ตามที่จำเลยที่ 4 กล่าวอ้าง ข้อความที่ระบุไว้ในข้อ 9 ดังกล่าวนั้นเป็นกรณีที่ให้ถือเอาว่าสัญญาจำนองที่จำเลยที่ 4 ได้จดทะเบียนจำนองไว้ก่อนแล้วนั้นเป็นการประกันหนี้ตามสัญญาค้ำประกันหมาย จ.17 ที่จำเลยที่ 4 ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1ที่ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีหลังจากมีการจำนองด้วยอีกส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ทำให้ความผูกพันที่จะต้องรับผิดของจำเลยที่ 4 ตามสัญญาหมาย จ.17 นั้น ระงับสิ้นไปให้มีความรับผิดตามสัญญาจำนองหมาย ล.1และ ล.2 เท่านั้น แต่ความรับผิดของจำเลยที่ 4 ยังคงมีอยู่ตามสัญญาค้ำประกันหมาย จ.17 จนกว่าหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีหมาย จ.14 จะได้ชำระครบถ้วนแล้ว เมื่อได้วินิจฉัยไว้ตอนต้นแล้วว่าหนี้ตามสัญญาดังกล่าวยังมีอยู่ จำเลยที่ 4 จึงยังต้องรับผิดตามที่ได้เข้าผูกพันตนในฐานะผู้ค้ำประกันตามที่ปรากฏในเอกสารหมายจ.17…”
พิพากษายืน.