แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้แบ่งทรัพย์มรดกที่พิพาทถ้าตกลงแบ่งกันไม่ได้ให้ประมูลขายระหว่างทายาทหรือขายทอดตลาด เอาเงินแบ่งกันตามส่วน คำพิพากษาของศาลฎีกาย่อมผูกพันโจทก์ เมื่อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์มรดกที่พิพาท ไม่สามารถตกลงแบ่งกันได้ ดังนี้กรณีต้องบังคับคดีต่อไปตาม คำพิพากษาศาลฎีกานั้น
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้นางลมุน มนูรัตน์โอนที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1172 แขวงจักรวรรดิ์ เฉพาะส่วนของนางลมุน มนูรัตน์ กลับคืนเข้าในกองมรดกแล้วแบ่งทรัพย์สินมรดกของนายสวัสดิ์ มนูรัตน์ ซึ่งมีทรัพย์ 2 ใน 3 ส่วนของกองมรดกทั้งหมดให้แก่นางพเยาว์ กัลยาณมิตร ได้ 1 ใน 4 ส่วนที่เหลือเป็นของทายาทอื่นตามส่วนที่ได้รับ โดยให้ผู้ร้องสอดทั้งสามได้รับมรดกส่วนของนายสวัสดิ์ บิดาคนละ 1 ใน 4 ส่วนของมรดกบิดาทั้งหมด และได้รับทรัพย์มรดกส่วนของนางพูนสุขมารดาคนละ 1 ใน 4 ส่วนของมรดกมารดาทั้งหมด ถ้าตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้ประมูลขายระหว่างทายาทหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน คำขออื่นนอกจากที่กล่าวนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นางลมุน มนูรัตน์ มีสิทธิได้รับมรดกของนายสวัสดิ์ มนูรัตน์ ด้วย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เอาทรัพย์มรดกของนายสวัสดิ์ มนูรัตน์ มาแบ่งออกเป็น 6 ส่วน โดยให้นางพูนสุข มนูรัตน์ ได้ 1 ส่วนอีก 4 ส่วน ให้แก่บุตรคนละ 1 ส่วนเท่า ๆ กัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์คดีนี้ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน
นางลมุน มนูรัตน์ ในฐานะผู้จัดการมรดกนางพูนสุข มนูรัตน์และผู้ร้องสอดที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1172 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง แขวงจักรวรรดิ์ แล้วนำเงินมาแบ่งแก่ทายาทตามคำพิพากษาของศาลฎีกาต่อไป
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์แถลงว่ายังไม่ควรขายทรัพย์สินที่ดินและตึกแถวตามที่ผู้ร้องสอดทั้งสองและจำเลยร้องขอต่อศาล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีทั้งสองสำนวนยังมิได้มีการปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา จึงให้ออกคำบังคับให้จำเลยและผู้จัดการมรดกปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาภายใน 2 เดือนนับแต่วันทราบคำสั่งศาล
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นในการออกคำบังคับดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า โจทก์เป็นคู่ความในคดีเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ขายทรัพย์ที่พิพาทหากตกลงแบ่งกันไม่ได้ คำพิพากษาของศาลฎีกาย่อมผูกพันโจทก์และข้อเท็จจริงได้ความว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทไม่สามารถตกลงแบ่งกันได้ จึงเป็นกรณีต้องมีการบังคับคดีทั้งข้ออ้างของโจทก์ก็หาใช่เหตุตามกฎหมายที่จะให้งดการออกคำบังคับแต่อย่างใดไม่ การที่ศาลล่างทั้งสองให้ออกคำบังคับเพื่อปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาชอบแล้ว”
พิพากษายืน