แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยรับเงินค่าสินค้าไว้ในฐานะตัวแทนของโจทก์ร่วมผู้ขาย เงินนั้นย่อมตกเป็นของโจทก์ร่วมแล้ว ผู้ซื้อสินค้าเมื่อได้ชำระหนี้ค่าสินค้าแล้วหาใช่เป็นเจ้าของเงินนั้นต่อไปไม่เมื่อจำเลยครอบครองเงินของโจทก์ร่วมไว้แล้วไม่ส่งมอบให้โจทก์ร่วมโดยนำเข้าฝากในบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วมตามหน้าที่ อันเป็นความผิดฐานยักยอก โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์พนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ร่วมย่อมขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 91พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และให้จำเลยคืนเงินจำนวน 1,452,907 บาทที่จำเลยยักยอกไปแก่ผู้เสียหาย ระหว่างพิจารณาบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 91พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 เป็นความผิดรวม 50 กระทง ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 8 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกกระทงละ 4 เดือนรวม 50 กระทงเป็นจำคุก 16 ปี 8 เดือน แต่ให้ลงโทษจำคุก 10 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(1) ให้จำเลยคืนเงินจำนวน1,452,907 บาท แก่โจทก์ร่วม จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าเงินจำนวน 1,452,907 บาท ที่จำเลยรับมาจากผู้ซื้อสินค้าของโจทก์ร่วมมิใช่เป็นเงินของโจทก์ร่วม แต่ยังคงเป็นของผู้ซื้อสินค้าอยู่ กรรมสิทธิ์ยังไม่ตกเป็นของโจทก์ร่วมจนกว่าจำเลยจะได้มอบให้โจทก์ร่วม เมื่อจำเลยยักยอกเงินดังกล่าวไป ผู้ที่ชำระเงินให้แก่จำเลยย่อมเป็นผู้เสียหาย หาใช่โจทก์ร่วมไม่ โจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการร้านซิงเกอร์ สาขาพิษณุโลก 4 ซึ่งเป็นร้านสาขาของโจทก์ร่วมโดยจำเลยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของโจทก์ร่วมในการจำหน่ายสินค้าในการนี้จำเลยเป็นผู้รับเงินค่าสินค้าจากลูกค้าเองและจากพนักงานขายและพนักงานเก็บเงินของโจทก์ร่วมที่เก็บจากลูกค้าแล้วนำมาส่งมอบให้จำเลย เมื่อจำเลยรับเงินค่าสินค้ามาแล้วจำเลยจะต้องนำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ร่วมที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาพิษณุโลกแต่ปรากฏว่าภายหลังจากที่ได้รับเงินค่าสินค้ามาแล้ว จำเลยไม่ได้นำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ร่วมกลับได้เบียดบังเอาไปเสียเช่นนี้เห็นว่า การที่จำเลยรับเงินค่าสินค้าไว้ในฐานะดังกล่าวเงินนั้นย่อมตกเป็นของโจทก์ร่วมแล้ว ผู้ซื้อสินค้าเมื่อได้ชำระหนี้ค่าสินค้าแล้วหาใช่เป็นเจ้าของเงินนั้นต่อไปไม่ เมื่อจำเลยครอบครองเงินของโจทก์ร่วมไว้แล้วไม่ส่งมอบโดยนำเข้าฝากในบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วมตามหน้าที่ อันเป็นความผิดฐานยักยอกโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ พนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ร่วมย่อมขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้”
พิพากษายืน