แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน จำเลยรับฟังเรื่องที่ ส. น้องสาวเล่าว่าทะเลาะกับผู้ตายและผู้ตายได้ ยิงปืนขู่แล้ว ส. ให้จำเลยไปเอากระบือการที่จำเลยคว้าอาวุธปืนไปด้วย อาจเพราะเป็นเวลามือค่ำ หรือเพื่อป้องกันตัวก็ได้ อีกทั้งก่อนที่จำเลยจะยิงผู้ตายยังได้ มีการพูดจาทักทาย กันก่อน หาได้ยิงในทันทีที่พบผู้ตายไม่เช่นนี้ การกระทำผิดของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน ตาม ป.อ. มาตรา 289(4).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโดยมีเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนใช้อาวุธปืนยิงนายบุญทัน คำมี หลายนัดเป็นเหตุให้นายบุญทัน คำมีถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 32, 33, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519ข้อ 3, 6, 7 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคแรก, 72 วรรคแรก, 72 ทวิ วรรคสองให้ลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิด ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) ให้ประหารชีวิต พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 72 วรรคแรก จำคุก 3 ปี มาตรา 72 ทวิ วรรคสองจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)จำคุกตลอดชีวิต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 72 วรรคแรก จำคุก 2 ปี มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง จำคุก 2 ปีเมื่อรวมทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 18 ปี มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7, 72 วรรคหนึ่งให้จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง จำคุก 6 เดือนรวมแล้วจำคุกจำเลย 19 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนและชั้นจับกุมเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย 13 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของนางสายพานหรือสมพาน กระจ่างคุณ ภริยาผู้ตายเอกสารหมาย ป.จ.6 ว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 18 นาฬิกานางสายพานทะเลาะกับผู้ตายที่กระท่อมนาผู้ตายเมาสุราได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ 1 นัด นางสายพานจึงหนีมาที่บ้านนางสนมมารดาพบจำเลยซึ่งเป็นพี่ชายและนางสนมอยู่ด้วยกัน นางสายพานเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับผู้ตายและผู้ตายยิงปืนขู่ให้คนทั้งสองฟัง แล้วขอร้องให้จำเลยไปเอากระบือที่ห้างนามาไว้ที่บ้านเพราะไม่มีคนเฝ้า จำเลยบอกว่าจะไปเอากระบือเองแล้วจำเลยคว้าอาวุธปืนลูกซองยาวเดินลงจากบ้านไป อีกประมาณ 15 นาทีต่อมาก็มีเสียงปืนดังขึ้น เห็นว่าข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าตัวจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองผู้ตายมาก่อน ที่นางสายพานมาบอกว่าทะเลาะกับผู้ตายและผู้ตายได้ยิงปืนขู่นั้น ผู้ตายก็ไม่ได้ทำร้ายนางสายพานแต่อย่างใดไม่น่าจะเป็นเหตุถึงกับทำให้จำเลยต้องการฆ่าผู้ตายในขณะนั้น และยังปรากฏว่านางสายพานให้จำเลยไปเอากระบือที่ห้างนามาไว้ที่บ้านด้วย การที่จำเลยคว้าอาวุธปืนไปด้วย อาจเพราะเป็นเวลามืดค่ำแล้ว จำเลยอาจเอาไปเพื่อป้องกันตัวก็ได้ นอกจากนั้นยังปรากฏจากคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลย เอกสารหมายป.จ.4 อีกว่า ก่อนที่จำเลยจะยิงผู้ตายยังได้มีการพูดจาทักทายกันก่อนแล้วจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย หาได้ยิงในทันทีที่พบผู้ตายไม่ เช่นนี้ ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยคิดฆ่าผู้ตายมาแต่ต้น การกระทำผิดของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)…”
พิพากษายืน.