คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมรณะในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยโดยอ้างว่าโจทก์และจำเลยเป็นพี่น้องกัน การอนุญาตให้บุคคลเข้าเป็นคู่ความแทนผู้มรณะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 43 นั้นศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมและเหตุสมควรทั้งศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ สำหรับกรณีนี้โจทก์และจำเลยเป็นคู่ความฝ่ายตรงข้ามกันและเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน หากยอมให้โจทก์เข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย โจทก์ย่อมจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาทุกขั้นตอนให้เป็นคุณแก่โจทก์ ซึ่งขัดต่อความประสงค์ของจำเลยผู้มรณะอย่างเห็นได้ชัด ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะจึงชอบแล้ว.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ยื่นคำร้องว่านางสาวสมนึก มงคลชาติ จำเลยถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2531โจทก์และนางสาวสมนึกเป็นพี่น้องกัน โจทก์มีความประสงค์จะขอเข้าเป็นคู่ความแทนนางสาวสมนึกเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าการอนุญาตให้บุคคลเข้ามาเป็นคู่ความแทนผู้มรณะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 43 นั้น ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมและเหตุสมควร ทั้งศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ สำหรับกรณีนี้แม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นพี่น้องกับนางสาวสมนึก มงคลชาติ จำเลยผู้มรณะก็ตาม แต่โจทก์และนางสาวสมนึกก็เป็นคู่ความฝ่ายตรงข้ามกันและเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในคดีนี้ โจทก์จะเข้ามาเป็นคู่ความแทนนางสาวสมนึกซึ่งเป็นจำเลยเพื่อต่อสู้คดีกับตัวโจทก์เองได้อย่างไรหากยอมให้โจทก์เข้ามาเป็นคู่ความแทนนางสาวสมนึก โจทก์ย่อมจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาทุกขั้นตอนให้เป็นคุณแก่โจทก์ ซึ่งโจทก์เองก็ยอมรับว่าเมื่อเข้าเป็นคู่ความแทนนางสาวสมนึกแล้วย่อมยินยอมให้คดีเสร็จไปตามฟ้องของโจทก์ ซึ่งเป็นการขัดต่อความประสงค์ของนางสาวสมนึกผู้มรณะอย่างเห็นได้ชัด ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์เข้าเป็นคู่ความแทนนางสาวสมนึกผู้มรณะ จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share