แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพยานในสำนวนหนึ่งจะฟังมายันจำเลยอีกสำนวนหนึ่งไม่ได้
ย่อยาว
คดีเรื่องนี้ เนื่องจากคดีที่ ๑๓๔๕/๒๔๖๘ ซึ่งมีใจความว่า อัยการเปนโจทย์ฟ้องนายสมันสามี จำเลยว่าบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของนายวัน นายสมันต่อสู้ว่านายวันได้ฉุดภรรยาของตนเข้าไปเพื่ออนาจาร แลอ้างจำเลย ๓ คนนี้เปนพยานซึ่งรู้เห็นในเวลาเกิดเหตุ ศาลไม่เชื่อคำพยานนี้แลตัดสินลงโทษนายสมันคดีได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วโจทย์จึงฟ้องหาว่าจำเลย ๓ คนนี้แจ้งความเท็จแลพยานเท็จ ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๑๘,๑๕๗,๑๕๘, แลในคดีเรื่องนี้โจทย์อ้างนายวันปากเดียวเปนพยานแลอ้างสำนวนคดีที่ ๑๓๔๕/๒๔๖๘ ประกอบ
ศาลฎีกาตัดสินว่า ในคดีที่ ๑๓๔๕/๒๔๖๘ ซึ่งศาลเดิมไม่เชื่อคำจำเลยทั้ง ๓ ว่านายวันได้ฉุดลากนางหนับเสาะ คดียังไม่พอจะฟังว่าจำเลย ๓ คนนี้แจ้งความเท็จฤาเปนพยานเท็จ แลจะฟังคำพยานในสำนวนก่อนมายันจำเลยในสำนวนนี้ไม่ได้ เพราะจำเลยทั้ง ๓ นี้มิได้เกี่ยวข้องเปนโจทย์จำเลยในสำนวนนั้นแลไม่มีโอกาศจะซักถามพยานจึงให้ยกฟ้องโจทย์ปล่อยจำเลย