คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อความผิดครั้งก่อนที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วทั้งสองครั้งไม่ใช่เหตุร้าย แม้ครั้งหลังนี้ จำเลยได้ทำผิดฐานลักทรัพย์ โดยล้วงกระเป๋าซึ่งเป็นเหตุร้ายก็ตาม ศาลอาจพิเคราะห์ความผิดครั้งก่อนๆ และเหตุผลเฉพาะคดีหลังนี้มาวินิจฉัยว่า จำเลยยังไม่มีสันดานเป็นผู้ร้าย และไม่ลงโทษกักกัน

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยเคยต้องโทษจำคุกครั้งแรกฐานปลอมหนังสือครั้งหลังฐานหนีราชการทหาร แล้วได้มาทำผิดคดีนี้ฐานลักทรัพย์โดยล้วงกระเป๋าลักธนบัตรของ ป.ไป 14 บาท 50 สตางค์ ศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย 2 ปี โดยเพิ่มโทษและลดแล้ว กับให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด 3 ปี

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่จำเลยเคยรับโทษจำคุกในฐานดังกล่าวสองครั้ง แล้วมาทำผิดฐานนี้ อาจถือว่าเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายได้แต่เห็นว่า ความผิดครั้งก่อน ๆ ของจำเลยไม่อยู่ในลักษณะอันเป็นเหตุร้าย และโดยเหตุผลเฉพาะคดีของจำเลยนี้ยังไม่ควรถือว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย พิพากษาแก้ไม่ลงโทษกักกัน ส่วนอื่น ๆ คงยืน

โจทก์ฎีกาว่า จำเลยล้วงกระเป๋าในที่ชุมชุนชนบนรถราง เป็นการอุกอาจขอให้กักกัน

ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

Share