แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คู่ความได้แถลงต่อศาล โดยจำเลยแถลงว่า ถ้าโจทก์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ว่าโจทก์ได้ให้จำเลยกู้เงินไปจริงตามฟ้องจำเลยยอมแพ้คดีถ้าโจทก์ไม่ยอมสาบานโจทก์ยอมแพ้ครั้นถึงกำหนดนัด โจทก์ไม่ยอมสาบาน ศาลชั้นต้นจดรายงานพิจารณาไว้ชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาน จึงเป็นอันว่าโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย (ที่1) ในครั้งนั้นมิได้มีการกล่าวอ้างที่หลงเข้าใจผิดแต่ประการใด ต่อมาอีกหลายวัน โจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าเข้าใจผิดในคำสาบานดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือกู้เงินโจทก์ไปโดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยขาดส่งดอกเบี้ย จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยที่ 1 ให้การว่าไม่เคยทำหนังสือสัญญาลงลายมือชื่อกู้เงินโจทก์และไม่เคยส่งดอกเบี้ยแก่โจทก์ ความจริงจำเลยที่ 2 เป็นผู้กู้ยืมเงินโจทก์ จำเลยที่ 2 ให้การรับตามฟ้องและขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ก่อน วันพิจารณาคู่ความแถลงในรายงานพิจารณามีความว่า “จำเลย (ที่ 1)แถลงว่า ถ้าโจทก์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (เจ้าแม่โกเหนี่ยว) ได้ว่า โจทก์ได้ให้จำเลย (ที่ 1)กู้เงินไปจริงตามฟ้อง จำเลย (ที่ 1) ยอมแพ้คดีโจทก์ยอมสาบานตามคำของจำเลย (ที่ 1)นัดสาบานเวลา 15.00 น. ถ้าโจทก์ไม่ยอมสาบานโจทก์ยอมแพ้คดี ถ้าโจทก์สาบานได้ว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินไปแล้ว จำเลย (ที่1) ยอมแพ้คดี ครั้นถึงเวลานัด ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาน จึงเป็นอันว่าฝ่ายโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น ครั้นถึงวันรุ่งขึ้นโจทก์ยื่นคำร้องขอทำความประนีประนอมยอมความกับจำเลย โดยมิต้องให้ศาลพิพากษาศาลอนุญาตให้เลื่อนไป 7 วัน ครบกำหนด 7 วัน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไป อ้างว่าการที่โจทก์ไม่ยอมสาบานเพราะจำเลยนำสาบานผิดจากที่ตกลงกัน ทั้งรายงานศาลก็จดผิดจากที่ตกลงกัน ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดในคำสาบาน จึงให้สืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วฟังข้อเท็จจริงไปตามฟ้องโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยตามรายงานพิจารณาของศาลชั้นต้น ซึ่งจดไว้ชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาน จึงเป็นอันว่าฝ่ายโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย (ที่ 1) ในครั้งนั้นมิได้มีการกล่าวอ้างว่าได้มีการหลงเข้าใจผิดแต่ประการใด ต่อมาอีกหลายวัน โจทก์จึงยื่นคำร้องว่าเข้าใจผิดในคำสาบาน ศาลชั้นต้นสั่งให้สืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ไม่ชอบ
เมื่อจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์จำเลยที่ 2 ก็หลุดพ้นความรับผิดไปด้วยความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)
พิพากษายืน