คำสั่งคำร้องที่ 1100/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลย ทั้งห้าข้อเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2(4) จำเลยฎีกาว่า การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อตกลงพิเศษต่อกัน ต่างตอบแทนซึ่งกัน และกัน แต่โจทก์กลับนำสืบว่าเช่ากันเพียง 1 ปี เป็นการ นำสืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของ ประชาชน จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรค 2 ส่วนฎีกาข้อ 2(5) จำเลย ฎีกาว่า โจทก์มิได้มอบอำนาจให้ทนายโจทก์ บอกเลิกสัญญาเช่ากับ จำเลยเป็นหนังสือทั้งมิได้นำหนังสือมอบอำนาจให้เบิกเลิกสัญญา เช่า ดังกล่าว มาแสดงการบอกเลิกสัญญาเช่าจึงไม่ชอบโจทก์ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง อันเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ฎีกาของจำเลย ตามข้อ 2(4) และ 2(5) แม้จำเลยมิได้หยิบยกมาว่ากล่าวใน ศาลล่าง ศาลก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นมาว่ากล่าวได้เองอยู่แล้วโปรดรับฎีกาข้อ 2(4) และ 2(5) ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์ทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว ไม่ ปรากฎว่าแถลงคัดค้านแล้วหรือไม่ (อันดับ 82 แผ่นที่ 2)
ศาลอุทธรณ์พิพากษา 1 พิพากษายืน ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 10409 ตำบทหนองจะบกอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 105,000 บาทแก่โจทก์ และชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวาร จะออกไปจาก ที่พิพาท ฟ้องแย้งของจำเลยให้ยกเสีย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 77)
จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาจำเลยข้อ 2(4) เพื่อให้ศาลฟังว่า การเช่าที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการเช่าที่มีสัญญาต่าง ตอบแทนพิเศษเป็นอย่างอื่น และฎีกาจำเลยข้อ 2(5) เพื่อให้ ศาลฟังว่าโจทก์มิได้มอบอำนาจให้ทนายโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่า ต่อจำเลยเป็นหนังสือ จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง จำเลยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลย ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share