คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3987/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญากู้เงินไปจากจำเลย โดยจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันการชำระหนี้ และตกลงทำหนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง ระบุว่า ผู้จำนองตกลงจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้ทุกประเภทที่ผู้จำนองเป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่ในเวลานี้หรือจะเป็นหนี้ต่อไปในภายหน้าก็ตาม… ดังนี้ ข้อสัญญาดังกล่าวมีความหมายอย่างชัดแจ้งว่าสัญญาจำนองที่ดินดังกล่าวนอกจากจะเพื่อเป็นประกันเงินที่โจทก์กู้จากจำเลยแล้ว ยังเป็นประกันหนี้ทุกประเภทที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยอีก เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังค้างชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงินแก่จำเลย ถือได้ว่าโจทก์ยังมีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อจำเลยตามสัญญาจำนองรายนี้อยู่ แม้โจทก์จะชำระหนี้ที่โจทก์กู้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองก็ยังไม่ระงับสิ้นไป จำเลยมีสิทธิที่จะไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ ๓๖๖๕ ตำบลปากแตระ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษากลับ ให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ ๓๖๖๕ ตำบลปากแตระ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เพื่อปลดจำนองให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม ๓,๐๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า โจทก์ได้ทำสัญญากู้เงินจากจำเลย สาขาระโนด ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยได้จดทะเบียนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ ๓๖๖๕ ตำบลปากแตระ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่จำเลยเป็นประกันเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี โจทก์ได้ชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวให้จำเลยครบถ้วนแล้ว แต่โจทก์ยังเป็นหนี้จำเลยตามสัญญาขายตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อปรากฏตามหนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองข้อ ๑ ระบุว่า ผู้จำนองตกลงจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหนี้ทุกประเภทที่ผู้จำนองเป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่ในเวลานี้หรือจะเป็นหนี้ต่อไปในภายหน้าก็ตามในจำนวนเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เห็นว่า ข้อสัญญาดังกล่าวมีความหมายอย่างแจ้งชัดว่าสัญญาจำนองที่ดินดังกล่าวนอกจากจะเพื่อเป็นประกันเงินที่โจทก์กู้จากจำเลยแล้ว ยังเป็นประกันหนี้ทุกประเภทที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยอีกด้วย ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังค้างชำระหนี้ตามสัญญาขายตั๋วสัญญาใช้เงินแก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ วินิจฉัยว่าสัญญาจำนองที่ดินดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงหนี้ตามสัญญาขายตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ.

Share