แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ไม่ลงชื่อผู้เรียง เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบจึงไม่รับ
โจทก์เห็นว่า โจทก์มิได้จงใจที่จะไม่ลงลายมือชื่อผู้เรียงในคำฟ้องอุทธรณ์ หากเป็นเพราะความพลั้งเผลอของทนายโจทก์ผู้นำยื่นอุทธรณ์เองที่เข้าใจว่าลงลายมือชื่อครบถ้วนแล้วทั้งมิได้รับการทักท้วงจากพนักงานเจ้าหน้าที่ของศาลแต่อย่างใด โจทก์จึงได้ยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวเข้าไปโดยไม่ได้ทบทวนหรือตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัด ซึ่งเหตุเพียงเท่านี้ไม่น่าจะเป็นเหตุถึงกับทำให้อุทธรณ์ของโจทก์ต้องเสียไปทั้งฉบับ โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ลงลายมือชื่อผู้เรียงในคำฟ้องอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 9 แถลงคัดค้าน (อันดับ 124)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จ่ายเงินโบนัสให้โจทก์ 2,928.75 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 116)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 120)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ทนายโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในช่องผู้เรียงอุทธรณ์แต่ในช่องผู้อุทธรณ์ก็ดี ช่องผู้เขียนก็ดี โจทก์ลงชื่อไว้ถูกต้องนั้น ถือว่าเป็นคำฟ้องอุทธรณ์ที่มีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย เป็นคำฟ้องที่ไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67(5) ศาลมีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเสียให้บริบูรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522มาตรา 31 จึงให้ยกคำสั่งศาลแรงงานกลางให้ศาลแรงงานกลางจัดการให้ทนายโจทก์ลงชื่อในฐานะผู้อุทธรณ์ในคำฟ้องอุทธรณ์เสียให้ถูกต้องแล้วดำเนินการต่อไป