คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์นำเงินมาวางศาลภายใน15 วัน เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์หากไม่นำมาวางภายในกำหนด ให้จำหน่ายคดีก่อนสิ้นกำหนดวางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์คำสั่งนั้นว่าผู้ร้องไม่ต้องวางเงินประกันความเสียหาย และขอให้มีคำสั่งงดการจำหน่ายคดี ครั้นสิ้นกำหนดแล้วศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดีผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่อุทธรณ์คำสั่งนี้ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีแล้ว คู่ความมิได้อุทธรณ์คำสั่งเช่นนี้ คดีจึงถึงที่สุดแล้ว ไม่มีทางจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้และไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องเรื่องคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ให้วางเงินประกันต่อไป

ย่อยาว

เดิมคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินอ้างว่าเป็นของจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของผู้ร้องขอให้ปล่อย โจทก์ให้การว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นที่มีโฉนดเป็นของจำเลย ผู้ร้องเป็นมารดาจำเลยยื่นคำร้องเพื่อประวิง ขอให้ยกคำร้อง

ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า คำร้องขัดทรัพย์ไม่มีมูลและยื่นเข้ามาเพื่อประวิงทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลสั่งผู้ร้องวางเงินประกันความเสียหาย 5,000 บาท ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำเงิน 5,000 บาท มาวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันสั่งเพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ หากไม่วางภายในกำหนด ให้จำหน่ายคดี

ก่อนสิ้นกำหนดวางเงิน ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นว่าคดีของผู้ร้องมีมูลที่จะร้องได้ และมิได้ยื่นเข้ามาเพื่อประวิงให้ชักช้า ผู้ร้องไม่ต้องวางเงินประกันความเสียหาย ขอให้มีคำสั่งงดการจำหน่ายคดี

หลังจากครบกำหนดวางเงิน โจทก์ยื่นคำแถลงว่าผู้ร้องไม่วางเงินตามคำสั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องไม่อุทธรณ์คำสั่งนี้

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์

ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาว่า คำร้องขัดทรัพย์มีมูลและไม่ได้ยื่นเข้ามาเพื่อประวิงให้ชักช้า การไม่อุทธรณ์เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีก็เป็นการชอบ เพราะจะเป็นการซ้ำหรือซ้อนกับอุทธรณ์เดิม ขอให้ยกคำร้องของโจทก์ โดยผู้ร้องไม่ต้องวางเงินประกัน กับงดการจำหน่ายคดี เมื่อจำหน่ายคดีแล้วขอให้ยกขึ้นพิจารณาใหม่

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์เสียแล้ว คู่ความไม่อุทธรณ์คำสั่งนี้ คดีจึงถึงที่สุดแล้ว ไม่มีทางจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้ และไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยเกี่ยวกับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องวางประกัน

พิพากษาให้ยกฎีกาของผู้ร้องขัดทรัพย์

Share