แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รถยนต์ที่ผู้เสียหายเช่าซื้อจากบริษัท อ. นั้น จำเลยมีส่วนได้เสียอยู่ด้วย โดยเป็นผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อและกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่การครอบครองรถยนต์ของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหรือซึ่งผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย การที่จำเลยนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปมอบคืนให้แก่บริษัท อ. โดยผู้เสียหายมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยจึงไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไว้โดยทุจริต ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้าไปใต้ถุนบ้านของนางหนูช่วยผู้เสียหายแล้วลักเอารถยนต์ 1 คันของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายผู้เช่าซื้อไป และจำเลยได้ปลอมใบมอบอำนาจอันเป็นเอกสารสิทธิให้ขายรถยนต์คืนแก่บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด แล้วจำเลยนำใบมอบอำนาจดังกล่าวไปแสดงต่อบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ว่าผู้เสียหายประสงค์จะขายรถคืนโดยมอบอำนาจให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการแทน บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด หลงเชื่อจึงยอมรับซื้อคืนและมอบเงินให้จำเลยไป 20,000 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 264, 265, 268, 335 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ริบเอกสารปลอมของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 และมาตรา 268 ลงโทษจำคุกทั้งสองกระทง ริบเอกสารสิทธิปลอม ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ลงโทษจำเลยฐานยักยอก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถยนต์ที่ผู้เสียหายเช่าซื้อจากบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด นั้นจำเลยมีส่วนได้เสียอยู่ด้วย โดยจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันในการเช่าซื้อ และกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อยังเป็นของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ผู้ให้เช่าซื้ออยู่การครอบครองรถยนต์ของจำเลยจึงเป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของบริษัทอุดรเจริญศรี จำกัดผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ใช่เป็นการครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหรือซึ่งผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปมอบคืนให้แก่บริษัทอุดรเจริญศรี จำกัด ผู้เป็นเจ้าของ โดยผู้เสียหายมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไว้โดยทุจริต การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
พิพากษายืน