แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาจากเจ้าพนักงานโดยยื่นหลักทรัพย์ประกันเท็จและเจ้าพนักงานสั่งอนุญาตไปนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง.
ในกรณีอันเดียวกันโจทก์เคยฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จแล้ว จะมาฟ้องขอให้ลงโทษฐานอื่นอีกไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าจำเลยได้ยื่นบัญชีทรัพย์อันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหา เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานหลงเชื่อและสั่งอนุญาตให้จำเลยประกันผู้ต้องหาไป โจทก์เคยฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและศาลได้ลงโทษไปเสร็จเด็ดขาดแล้ว บัดนี้โจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๔
ศาลจังหวัดพังงาพิพากษายกฟ้องดจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เข้าใจหนังสือสัญญาประกันผิดมาก เพราะมีข้อความปรากฏชัดว่าเป้นหนังสือซึ่งฝ่ายจำเลยทำให้ไว้แก่พนักงานอัยยการ ขอรับตัวผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของเจ้าพนักงาน และสัญญารับผิดฝ่ายเดียว เจ้าพนักงาน และสัญญารับผิดฝ่ายเดียว เจ้าพนักงานหาได้ทำหนังสืออะไรที่จะสั่งอนุญาต เมื่อเจ้าพนักงานไม่ได้ทำหนังสือสำคัญเพราะถูกจำเลยหลอกลวงเช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานฉ้อ กรณีเรื่องนี้ดดทก์ได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องความเท็จเป็นคดีหนึ่งต่างหาก ศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว ไม่ควรมาฟ้องคดีนี้อีก จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง