คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำอันเป็นกรรมเดียวมีเจ้าทุกข์หลายคนนั้น มีเจ้าทุกข์คนหนึ่งฟ้องและศาลได้พิพากษาและศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้วเจ้าทุกข์คนอื่นจะมาฟ้องไปแล้วเจ้าทุกขคนอื่นจะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยอีกไม่ได้

ย่อยาว

ได้ความว่าเดิมนายอ้ายจำเลยได้ฟ้องโจทก์กับหลวงนรภา+และพวกเป็นจำเลยขอให้ขับไล่ออกจากที่ดิน และขอค่าเสียหายซึ่งโจทก์และหลวงนรภารเป็นผู้แพ้คดี โจทก์จึงฟ้องว่าในคดีนั้นจำเลยทั้ง ๒ เบิกความเท็จ ก่อนคดีนี้หลวงนรภารได้ฟ้องจำเลยทั้ง ๒ นี้ว่าเบิกความเท็จเช่นเดียวกับโจทก์ฟ้องนี้ ศาลตัดสินยกฟ้อง.
ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ฟ้องคดีขึ้นมาในข้อหาอย่างเดียวกับที่หลวงนรภารฟ้องจำเลย และคดีที่กล่าวนี้ถูกยกฟ้องเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์หมดสิทธิ์ที่จะฟ้องอีกตามวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๙ (๔)
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์เถียงว่า มิได้ร่วมเป็นโจทก์กับหลวงนรภารทั้งนี้เป็นการช่วยคดีโจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์อาจร่วมฟ้องกับหลวงนรภาร หรือมิฉะนั้นก็ฟ้องเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ศาลได้มีโอกาสพิพากษาคราวเดียวกัน แต่โจทก์หาได้ทำดุจกล่าวแล้วไม่ โจทก์รอมาฟ้องจำเลยเมื่อคดีหลวงนรภารแพ้จำเลยแล้วในข้อหาเช่นเดียว เห็นได้ชัดแจ้งว่าจำเลยฟ้องซ้ำ จึงพิพากษาตามศาลล่าง.

Share