แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า การที่เครื่องตัดหินแกรนิต ของโจทก์แตกร้าวชำรุด ไม่สามารถใช้การได้ ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์จากการผลิตสินค้าประเภทแผ่นหินแกรนิต ซึ่งโจทก์ต้องส่งให้แก่ ลูกค้ามีจำนวนไม่เพียงพอ โจทก์จึงขาดประโยชน์เป็นเงิน 2,400,000 บาท นั้น เป็นการเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่ พฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยต้องได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็น พฤติการณ์เช่นนี้ล่วงหน้าก่อนแล้วแต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นถึงค่าเสียหาย อันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่เป็นเหตุให้โจทก์ต้องขาดประโยชน์ ดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์สั่งซื้อสินค้าเครื่องตัดหินแกรนิต ยี่ห้อซีเม็คจากบริษัทซีเม็ค เอส.พี.เอ. สโตน โปรเซสซิ่ง แพลน จำกัด ประเทศสาธารณรัฐอิตาลี จำเลยตกลงรับขนส่งเครื่องตัดหินแกรนิต ดังกล่าวทางทะเลจากท่าเรือเทรีสทเทประเทศสาธารณรัฐอิตาลี มายังท่าเรือกรุงเทพมหานครประเทศไทย โดยเรือบรรทุกสินค้าชื่อเยอร์โมสคินซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในฐานะผู้ขนส่งแต่จำเลยประมาทเลินเล่อขนส่งโดยปราศจากความระมัดระวังและมิได้ป้องกันตามสมควรตามหน้าที่ ทำให้ตู้สินค้าเครื่องตัดหินแกรนิต ของโจทก์กระแทกกับตัวเรือและตู้สินค้าอื่นอย่างแรง เป็นเหตุให้เครื่องตัดหินแกรนิตเสียหายและต้องมีการซ่อมแซมจากการที่เครื่องตัดหินแกรนิตของโจทก์เสียหายดังกล่าว โจทก์จึงขาดรายได้ที่ไม่ได้ผลิตแผ่นหินแกรนิตจำหน่ายเป็นเวลา 8 เดือน เดือนละ 300,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหายเฉพาะส่วนนี้เป็นเงิน 2,400,000 บาท เมื่อรวมกับค่าเสียหายส่วนอื่นแล้วเป็นเงิน 4,526,947.91 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 4,401,833.33 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 1,805,923.29 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2535 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้เงินค่าขาดประโยชน์จากการผลิตสินค้าประเภทแผ่นหินแกรนิต 700,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดค่าขาดประโยชน์จากการผลิตสินค้าประเภทแผ่นหินแกรนิตเป็นเงิน 700,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่าโจทก์สั่งซื้อเครื่องตัดหินแกรนิตจากบริษัท ซีเม็ค เอส.พี.เอ.สโตน โปรเซสซิ่งแพลน จำกัดประเทศสาธารณรัฐอิตาลี โดยได้ตกลงจ้างให้จำเลยเป็นผู้ขนส่งทำการขนส่งเครื่องตัดหินแกรนิตดังกล่าวจากท่าเรือเมืองเทรีสทเทประเทศสาธารณรัฐอิตาลีมายังท่าเรือกรุงเทพมหานคร ประเทศไทยแต่ด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยในการขนส่งทำให้เครื่องตัดหินแกรนิตของโจทก์ได้รับความชำรุดเสียหายโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าอะไหล่ ค่าซ่อมแซม รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกหลายรายการ คดีมีประเด็นขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ตามฎีกาโจทก์เพียงประเด็นเดียวคือ โจทก์ควรได้รับค่าขาดประโยชน์จากการที่ไม่ได้ใช้เครื่องตัดหินแกรนิต หรือไม่ข้อนี้โจทก์อ้างในคำฟ้องข้อ 5 ว่า การที่เครื่องตัดหินแกรนิตของโจทก์ แตกร้าว ชำรุดไม่สามารถใช้การได้ ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์จากการผลิตสินค้าประเภทแผ่นหินแกรนิตซึ่งโจทก์ต้องส่งให้แก่ลูกค้ามีจำนวนไม่เพียงพอ โจทก์จึงขาดประโยชน์เป็นเงิน 2,400,000 บาท เห็นว่า กรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนดังกล่าว เป็นการเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยต้องได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนี้ล่วงหน้าก่อนแล้ว โจทก์คงมีแต่นายวงศ์ธรณ์ สันติกาญจน์และนายสมคิด เลิศชนะเรืองฤทธิ์ เบิกความเป็นพยานได้ความเพียงว่าโจทก์ต้องขาดประโยชน์จากการที่โจทก์ไม่ได้ใช้เครื่องตัดหินแกรนิตเป็นเงินจำนวน 2,400,000 บาท เท่านั้น โดยโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นถึงค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่เป็นเหตุให้โจทก์ต้องขาดประโยชน์ดังกล่าวแต่อย่างใด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ดังกล่าว
พิพากษายืน