คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,86 รวม 40 กระทง ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 4 ปี รวมเป็นจำคุก 160 ปี จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิด 30 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี รวมเป็นจำคุก 120 ปี ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว เท่ากับความผิดที่เหลือ 30 กระทง ศาลอุทธรณ์ยังคงพิพากษายืนและลงโทษจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดที่เหลือทั้ง30 กระทง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้าราชการ จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำ กับพวกลูกจ้างประจำโรงพยาบาลบำราศนราดูรกรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุข อีกคนหนึ่งซึ่งหลบหนี มีหน้าที่รับชำระเงินบำรุงค่ารักษาพยาบาลและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นข้าราชการโรงพยาบาลบำราศนราดูร กรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่รับเงินจากจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกเพื่อนำฝากธนาคารตามระเบียบ ร่วมกันครอบครองเงินบำรุงค่ารักษาพยาบาลตามใบเสร็จรับเงินเล่มที่และเลขที่ต่าง ๆหลายคราว โดยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 362,295 บาท แล้วร่วมกันยักยอกเบียดบังเอาเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของพวกตนโดยทุจริตอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยทั้งสามกับพวกโดยสุจริต ทำให้เกิดความเสียหายแก่กรมควบคุมโรคติดต่อ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 83, 86 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 362,295 บาท แก่กรมควบคุมโรคติดต่อ
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 86 เป็นความผิดหลายกรรมรวม40 กระทง เรียงกระทงลงโทษให้จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 6 ปีจำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 4 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด240 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 160 ปี กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) คงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2คนละ 50 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 และให้จำเลยที่ 1และที่ 2 ร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 356,631 บาท แก่กรมควบคุมโรคติดต่อ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิด30 กระทง เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 120 ปีรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(3) ให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้เงินจำนวน 154,361 บาทแก่กรมควบคุมโรคติดต่อ โดยจำเลยที่ 2 ไม่ต้องคืนหรือใช้เงินด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 86 รวม 40 กระทงให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 4 ปี รวมเป็นจำคุก 160 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิด 30 กระทง จำคุกกระทงละ4 ปี รวมเป็นจำคุก 120 ปี ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าวเท่ากับความผิดที่เหลือ 30 กระทง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังคงพิพากษายืนและลงโทษจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยที่ 2 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำผิดเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามาไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 2

Share