แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สิทธิของผู้ร้องในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 นั้น จะมีอยู่เพียงชั่วระยะเวลาที่ผู้ร้องถูกควบคุมหรือขังอยู่เท่านั้น ถ้าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้วสิทธิในการขอให้ศาลสั่งปล่อยตามบทกฎหมายดังกล่าวย่อมระงับ ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอของผู้ร้องและผู้ร้องอุทธรณ์ แต่ปรากฏว่าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้วก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์ สิทธิของผู้ร้องที่จะร้องขอให้ศาลปล่อยจึงเป็นอันระงับไปแล้วก่อนที่ผู้ร้องจะยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1853/2506)
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ถูกพันตำรวจตรีอุทิศกล่าวหาว่าเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมได้จับผู้ร้องขังไว้ ผู้ร้องเป็นผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริต จึงขอให้ปล่อยตัว
พันตำรวจตรีอุทิศคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ การจับกุมคุมขังปฏิบัติไปตามขั้นตอนตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ แต่ปรากฏว่าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้วจึงไม่สั่งให้ปล่อยตัวผู้ร้องตามคำขอ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ขอให้สั่งปล่อยตัวผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๙๐ โดยอ้างว่าถูกพันตำรวจตรีอุทิศสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองพิจิตรขังโดยผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ตลอดมา ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม การขังไม่ผิดกฎหมาย ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว วินิจฉัยว่า การควบคุมชอบด้วยกฎหมาย มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ต่อมาวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวตามหนังสือว่าที่พันตำรวจเอกมหิดลผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรและลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ถึงสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองพิจิตร ครั้นวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การจับกุมคุมขังผู้ร้องเป็นการผิดกฎหมาย พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งให้ปล่อยตัวผู้ร้อง ผู้คัดค้านฎีกา พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า สิทธิของผู้ร้องในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๙๐ นั้น จะมีอยู่เพียงชั่วระยะเวลาที่ผู้ร้องถูกควบคุมหรือขังอยู่เท่านั้น ถ้าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องต่อศาลขอให้ปล่อย สิทธิในการขอให้ศาลสั่งปล่อยตามบทกฏหมายดังกล่าวย่อมระงับคดีนี้ปรากฎว่าว่าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ สิทธิของผู้ร้องที่จะร้องขอให้ปล่อยศาลสั่งปล่อยเป็นอันระงับไปแล้วก่อนผู้ร้องจะยื่นอุทธรณ์ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๕๓-๒๕๐๖ นายเผือก แก้วพูน ผู้ร้อง ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น