แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะสั่งให้รอคดีแพ่งไว้ฟังผลคดีอาญาเท่านั้น ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 39 เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ เมื่อเห็นสมควรจะสั่งให้รอคดีไว้ก็ได้
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ต้องห้าม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยอาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินไม่มีโฉนดของโจทก์ชั่วคราว บัดนี้จำเลยได้ทำลายต้นไม้เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้หลายประการระหว่างพิจารณาโจทก์ได้ฟ้องจำเลย และพยานจำเลยว่าเบิกความเท็จ แล้วโจทก์ยื่นคำขอให้ศาลงดคดีนี้ไว้รอฟังผลคดีอาญาที่โจทก์ฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุผลที่จะรอคดีนี้ไว้ และได้พิจารณาแล้ว ฟังข้อเท็จจริงสมจำเลย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริง คงให้รับฎีกาในข้อที่ขอให้รอคดีนี้ไว้ฟังผลคดีอาญาโดยเห็นว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๓๙ เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ เมื่อเห็นสมควรจะสั่งให้รอคดีไว้ก็ได้ ฉะนั้นเมื่อศาลล่างทั้งสองใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ให้รอคดีนี้ไว้ จึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้ ตัองห้ามตาม ป.ม.วิ.ในแพ่งมาตรา ๒๔๘
พิพากษา ให้ยกฎีกาโจทก์