คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3919/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนที่จำเลยที่1จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า MINMAXจำเลยที่1รู้อยู่ก่อนแล้วโดยการทักท้วงของ ม.ว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าMICMAC ของโจทก์ที่ ม. เป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนให้ก่อนแล้วอย่างมากเมื่อปรากฏว่าจำเลยที่1เคยเป็นพนักงานขายสินค้าของโจทก์มานาน10ปีและเคยเป็นผู้ดูแลการผลิตสินค้าของโจทก์จึงมีเหตุให้เชื่อว่าจำเลยที่1ต้องการใช้ประสบการณ์ของจำเลยที่1ดังกล่าวมาผลิตสินค้าจำพวกเดียวกับสินค้าของโจทก์และพยายามจะใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1ให้ใกล้เคียงกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์เพื่อให้สาธารณชนที่เคยรู้จักคุณภาพหรือเคยใช้สินค้าของโจทก์สับสนหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยที่1เป็นสินค้าของโจทก์จำเลยที่1จึงขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยไม่สุจริตมาแต่แรกแม้จำเลยที่1จะได้ความคิดเรื่องเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1จากการดูรายการข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์แล้วนำคำว่า MIN ซึ่งย่อมาจากคำว่า MINIMUM และคำว่า MAX ซึ่งย่อมาจากคำ MAXIMUM มารวมเป็นคำว่า MINMAXก็ตามเครื่องหมายการค้าที่จำเลยที่1ยื่นขอจดทะเบียนก็ยังเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์อันอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดได้นับได้ว่าจำเลยที่1ลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยโจทก์จึงชอบที่จะคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1และมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยที่1งดใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1ทั้งมีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่2ซึ่งเป็นนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าระงับหรือเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1ได้ เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1ใช้คำโรมัน2คำมาประกอบกันแล้วอ่านหรือเรียกขานว่า MINMAX ประกอบด้วยอักษรโรมัน6ตัวขึ้นต้นพยางค์แรกด้วยอักษร MI และลงท้ายพยางค์หลังด้วยอักษร MA เช่นเดียวกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่อ่านหรือเรียกขานว่า MICMAC ซึ่งโจทก์ได้จดทะเบียนไว้แล้วตั้งแต่ปี2518เมื่อเปรียบเทียบตัวอักษรตัวต่อตัวแล้วจะเห็นได้ว่าคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันมากถึงขนาดที่คนทั่วไปแม้จะสามารถอ่านอักษรโรมันได้แต่ถ้าไม่ได้สังเกตให้ดีแล้วจะต้องเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเครื่องหมายการค้าอันเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่ไม่สามารถอ่านหรือไม่รู้จักตัวอักษรโรมันด้วยแล้วจะไม่สามารถแยกข้อแตกต่างระหว่างเครื่องหมายการค้าของโจทก์กับจำเลยที่1พยางค์แรกคือคือว่า MIC และ MIN จะออกเสียงอ่านหรือเรียกขานเป็น “มิค” กับ “มิน” เพี้ยนกันเล็กน้อยส่วนพยางค์หลังคือคือว่า MAC และ MAX จะออกเสียงอ่านหรือเรียกขานเป็น “แม็ก” หรือ “แม็กซ์” เหมือนกันแม้เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีอักษร M ประดิษฐ์ประกอบอยู่ด้วยก็เป็นข้อแตกต่างปลีกย่อยมิใช่สาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยที่1เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่1จึงคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์อันจะเป็นการลวงสาธารณชนให้หลงผิดได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น เจ้าของ เครื่องหมายการค้า อักษรโรมัน คำ ว่า MICMAC, MICMAC ซึ่ง มี อักษร M ใน ลักษณะ ประดิษฐ์ ประกอบ อยู่ และ MICMAC ซึ่ง มี อักษร M ใน ลักษณะ ประดิษฐ์ และ ลวดลาย ประกอบ อยู่ รวมทั้ง เครื่องหมายการค้า อักษร โรมัน คำ ว่า MINMAN ตาม ทะเบียน เลขที่ 53502, 68807, 128959 และ 134898 จำเลย ที่ 1ยื่น คำขอ เลขที่ 181258 เพื่อ ขอ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า MINMAX ซึ่ง เหมือน หรือ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ โดย ใช้ กับ สินค้า จำพวก เดียว กัน เป็น การ ลวง สาธารณชน ให้ สับสนหลงผิด โจทก์ ได้ ยื่น คำคัดค้าน การ ขอ จดทะเบียน แล้ว แต่ จำเลย ที่ 2ซึ่ง เป็น นายทะเบียน เครื่องหมายการค้า ยัง รับ จดทะเบียน ไว้ อันเป็น การละเมิด สิทธิ ของ โจทก์ ขอให้ พิพากษา ว่า เครื่องหมายการค้า เหล่านั้นเหมือน หรือ คล้าย กัน ให้ จำเลย ที่ 1 หยุด การ ทำละเมิด และ ชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ร้อยละ เจ็ด ครึ่ง ต่อ ปี นับแต่วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์ ให้ จำเลย ที่ 2 หรือ นายทะเบียนเครื่องหมายการค้า งด รับ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ดังกล่าวแก่ จำเลย ที่ 1
จำเลย ที่ 1 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 1 เป็น ผู้ ประดิษฐ์เครื่องหมายการค้า MINMAX ของ จำเลย ที่ 1 เอง โดย ตัด พยางค์ หน้า ของ คำ ว่า MINIMUM ซึ่ง แปล ว่า ต่ำ สุด และ คำ ว่า MAXIMUM ซึ่ง แปล ว่า สุงสุด มา รวมกัน จำเลย ที่ 1 มิได้ ลอก หรือ เลียน เครื่องหมายการค้า ของโจทก์ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ กับ ของ จำเลย ที่ 1 แตกต่าง กันทั้ง รูป ลักษณะ สำเนียง เรียกขาน จึง ไม่ทำ ให้ สาธารณชน สับสน หลงผิดโจทก์ ไม่ได้ รับ ความเสียหาย ตาม ฟ้อง เพราะ เครื่องหมายการค้าทะเบียน เลขที่ 183556 และ เลขที่ 134898 โจทก์ ยื่น ขอ จดทะเบียนภายหลัง จำเลย ที่ 1 ขอให้ ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า โจทก์ มิได้ เป็น เจ้าของ เครื่องหมายการค้า MICMAC และ MINMAN เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1แตกต่าง จาก ของ โจทก์ โดย สาธารณชน ไม่มี โอกาส สับสน หลงผิด จำเลย ที่ 2มีอำนาจ ที่ จะ รับ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ที่ จำเลย ที่ 1 นำ มาขอ จดทะเบียน ได้ โจทก์ จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า เครื่องหมายการค้า ทะเบียน เลขที่68807, 12895 (ที่ ถูก คือ 128959)และ 134895 ของ โจทก์ คล้าย หรือเหมือนกับ เครื่องหมายการค้า ตาม คำขอ เลขที่ 181258 ของ จำเลย ที่ 1ให้ จำเลย ที่ 1 งด ใช้ เครื่องหมายการค้า นั้น และ ให้ ใช้ ค่าเสียหาย200,000 บาท พร้อม ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ เจ็ด ครึ่ง ต่อ ปี นับแต่ วันที่24 ธันวาคม 2533 จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์ ให้ จำเลย ที่ 2 หรือนายทะเบียน เครื่องหมายการค้า เพิกถอน การ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้าดังกล่าว แก่ จำเลย ที่ 1 ใน สินค้า จำพวก 38 ทั้ง จำพวก
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เฉพาะ ค่าฤชาธรรมเนียม
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี มี ประเด็น ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกาของ จำเลย ทั้ง สอง ประการ แรก ว่า จำเลย ที่ 1 ลอก เลียน เครื่องหมายการค้าของ โจทก์ มา ใช้ เป็น เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 หรือไม่ โจทก์นำสืบ โดย มี ตัว โจทก์ เอง นาย มงคล ตั้งจักรวรานนท์ และ นาย ชูชัย จตุรทัศนัย เบิกความ เป็น พยาน ว่า โจทก์ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า MICMAC เป็น เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ ไว้ ตั้งแต่ ปี 2518 และ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า MICMAC พร้อม ด้วย อักษร M ประดิษฐ์ เมื่อ ปี 2523 และ ต่อ อายุ ไว้ ใน ปี 2531 เครื่องหมายการค้า ทั้ง สอง เครื่องหมาย โจทก์ จดทะเบียน ไว้สำหรับ สินค้า จำพวก 38 ทั้ง จำพวก นอกจาก นี้ โจทก์ ยัง ได้ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า MINMAN และ MICMAC พร้อม อักษร M ประดิษฐ์ มี ลวดลาย ประกอบ ใน สินค้า จำพวก 38 สำหรับ สินค้า กางเกง ขา ยาวไว้ เมื่อ ปี 2532 และ 2533 ตามลำดับ โจทก์ ผลิต สินค้า ภายใต้เครื่องหมายการค้า ดังกล่าว ส่ง ไป จำหน่าย ตาม ร้านค้า ต่าง ๆ ทั้งราชอาณาจักร มี การ โฆษณา คุณภาพ สินค้า ของ โจทก์ ทาง สื่อ หนังสือพิมพ์ทั้ง หนังสือพิมพ์ รายวัน และ นิตยสาร ต่าง ๆ จำเลย ที่ 1 เคย รับจ้างเป็น พนักงาน ขาย สินค้า ของ โจทก์ โดย นำ สินค้า ภายใต้ เครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ ไป เสนอ ขาย แก่ ร้านค้า ตาม ต่างจังหวัด เป็น เวลา นาน ประมาณ 10 ปี ต่อมา เมื่อ จำเลย ที่ 1 ลาออก จาก การ เป็น พนักงานขาย สินค้า ของ โจทก์ จำเลย ที่ 1 ได้ ไป ติดต่อ ให้ นาย มงคล ผู้ เคย รับ ดำเนินการ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ให้ แก่ โจทก์ ให้ ช่วยดำเนินการ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ภายใต้ เครื่องหมาย MANMAX ให้ แก่ จำเลย ที่ 1 ใน สินค้า จำพวก เดียว กัน แต่ นาย มงคล เห็นว่า เครื่องหมายการค้า MINMAX เหมือน หรือ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ มาก จน อาจ ทำให้ สาธารณชน สับสน หลงผิดถึง แหล่ง ที่มา ของ สินค้า นาย มงคล จึง แนะนำ ให้ จำเลย ที่ 1 นำ รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ มา ประกอบ เป็น เครื่องหมายการค้า ด้วย ซึ่ง ใน เบื้องแรกจำเลย ที่ 1 ก็ เห็นชอบ แต่ ข้อเสนอ แนะ ของ นาย มงคล ถูก จำเลย ที่ 2แย้ง ว่า รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ของ บุคคลอื่นที่ ได้ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ไว้ ก่อน แล้ว จำเลย ที่ 2 จึง แนะ ให้จำเลย ที่ 1 ตัด รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ ออก นาย มงคล เห็นว่า หาก ตัด รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ ออกจาก เครื่องหมายการค้า MINMAX ของ จำเลย ที่ 1แล้ว เครื่องหมายการค้า MINMAX ของ จำเลย ที่ 1 จะ ละเมิด สิทธิ ใน เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ นาย มงคล จึง บอก ให้ จำเลย ที่ 1ตัดสิน ใจ ใหม่ อีก ครั้ง แต่ จำเลย ที่ 1 ยืนยัน ขอ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า MINMAX ตาม คำแนะนำ ของ จำเลย ที่ 2เมื่อ โจทก์ ทราบ โจทก์ จึง มอบหมาย ให้ นาย มงคล ยื่น คำคัดค้าน การ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 แต่ จำเลย ที่ 2 กลับวินิจฉัย ว่า เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 แตกต่าง จากเครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ ทั้ง รูปลักษณ์ และ การ เรียกขาน จึง ให้ยก คำคัดค้าน ของ โจทก์ เสีย จาก ข้อ นำสืบ ของ โจทก์ จะ เห็น ได้ว่า ก่อนที่ จำเลย ที่ 1 จะ ขอ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า MINMAX จำเลย ที่ 1 รู้ อยู่ ก่อน แล้ว โดย การ ทักท้วง ของ นาย มงคล ว่า เครื่องหมายการค้า MINMAX เหมือน หรือ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า MICMAX ของ โจทก์ ที่นาย มงคล เป็น ผู้ ดำเนิน การ จดทะเบียน ให้ ก่อน แล้ว อย่างมาก ถึง ขนาด จำเลย ที่ 1 ยินยอม ให้นาย มงคล นำ รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ มา ประกอบ เป็น ส่วน หนึ่ง ของ เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 เพื่อ หลีกเลี่ยง ปัญหา ดังกล่าวแต่เมื่อ ถูก จำเลย ที่ 2 แย้ง ว่า รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ เหมือน หรือ คล้ายกับ เครื่องหมายการค้า ของ บุคคลอื่น ที่ ได้ จดทะเบียน ไว้ ก่อน แล้วจำเลย ที่ 1 จึง ได้ เอา รูป ศีรษะ คน ขาว ดำ ออก และ ยื่น คำขอ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า MINMAX เพียง อย่างเดียว โดย ไม่นำ พา ต่อ คำ ทักท้วง ของ นาย มงคล เมื่อ นำ พฤติการณ์ ของ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง รู้ ถึง การ ที่ เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 เหมือน หรือ คล้าย กับเครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ ตาม ที่นาย มงคล ทักท้วง มา พิจารณา ร่วม กับ ข้อเท็จจริง ที่ จำเลย ที่ 1 เคย เป็น พนักงาน ขาย สินค้าภายใต้ เครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ เป็น เวลา นาน ประมาณ 10 ปี และ พิจารณา ถึง เรื่อง ที่ จำเลย ที่ 1 เคย เป็น ผู้ดูแล การ ผลิตสินค้า ภายใต้ เครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ ตาม ที่ จำเลย ที่ 1ตอบ คำถามค้าน แล้ว มีเหตุ ให้ เชื่อ ว่า จำเลย ที่ 1 ต้องการ ใช้ ประสบการณ์ของ จำเลย ที่ 1 ที่ เคย เป็น ลูกจ้าง ขาย สินค้า ภายใต้ เครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ มา ประกอบ ธุรกิจ ส่วนตัว ของ จำเลย ที่ 1 เอง โดย ผลิต สินค้า จำพวก เดียว กับ สินค้า ของ โจทก์ และ พยายาม จะ ใช้ เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 ให้ ใกล้เคียง กับ เครื่องหมายการค้า MICMAC ของ โจทก์ เพื่อ ให้ สาธารณชน ที่ เคย รู้ จัก คุณภาพ หรือ เคย ใช้ สินค้าของ โจทก์ สับสน หลงผิด ว่า สินค้า ของ จำเลย ที่ 1 เป็น สินค้า ของ โจทก์จำเลย ที่ 1 จึง ไม่สุจริต ต่อ การ ยื่น ขอ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า MINMAX มา แต่ แรก ข้อ นำสืบ ของ จำเลย ที่ 1 ที่ ว่า จำเลย ที่ 1 ได้ ความ คิด เรื่อง เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 มาจาก การ ที่จำเลย ที่ 1 ดู รายการ ข่าว พยากรณ์อากาศ ทาง สถานี โทรทัศน์ ช่อง 5สังเกต เห็น คำ ว่า MIN กับ คำ ว่า MAX อยู่ ที่ จอภาพ ด้าน ล่าง ซึ่ง คำ ทั้ง สอง คำ นี้ ย่อ มาจาก คำ ว่า MINIMUM และ MAXIMUM จำเลย ที่ 1 จึง นำ คำ นำ หน้า คำ ทั้ง สอง มา รวมกัน เป็น เครื่องหมายการค้าของ จำเลย ที่ 1 เป็น คำ ว่า MINMAX นั้น แม้ จะ เป็น ความจริง ดัง ที่ จำเลย ที่ 1 นำสืบ เครื่องหมายการค้า ที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอจดทะเบียน ก็ ยัง เหมือน หรือ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์อัน อาจ ทำให้ สาธารณชน สับสน หลงผิด ได้ นับ ได้ว่า จำเลย ที่ 1 ลอก เลียนเครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ มา ใช้ เป็น เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1อยู่ นั่นเอง โจทก์ จึง ชอบ ที่ จะ คัดค้าน การ ขอ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 และ มีสิทธิ ฟ้องบังคับ ให้ จำเลย ที่ 1 งด ใช้เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 ทั้ง มีสิทธิ ฟ้อง ให้ จำเลย ที่ 2 ระงับหรือ เพิกถอน การ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 เสีย ได้คำพิพากษา ของ ศาลล่าง ทั้ง สอง ใน ประเด็น นี้ ชอบแล้ว
ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สอง ใน ประเด็น ต่อมา ที่ ว่า เครื่องหมายการค้าที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอ จดทะเบียน คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ทะเบียนเลขที่ 68807, 128959 และ 134898 ของ โจทก์ อัน จะ เป็น การ ลวงสาธารณชน หรือไม่ นั้น ได้ความ ว่า เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1ที่ ใช้ คำ โรมัน 2 คำ มา ประกอบ กัน แล้ว อ่าน หรือ เรียกขาน ว่า MINMAX ประกอบ ด้วย อักษร โรมัน 6 ตัว ขึ้น ต้น พยางค์ แรก ด้วย อักษร MI และ ลง ท้าย พยางค์ หลัง ด้วย อักษร MA เช่นเดียว กับ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ ที่ อ่าน หรือ เรียกขาน ว่า MICMAC ซึ่ง โจทก์ ได้ จดทะเบียน ไว้ แล้ว ตั้งแต่ ปี 2518 เมื่อ เปรียบเทียบ ตัวอักษร โรมัน ที่ นำ มา เรียง ประกอบเป็น เครื่องหมายการค้า ระหว่าง เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์และ ของ จำเลย ที่ 1 ตัว ต่อ ตัว แล้ว จะ เห็น ได้ว่า คล้ายคลึง หรือ ใกล้เคียงกัน มาก ถึง ขนาด ที่ คน ทั่วไป แม้ จะ สามารถ อ่าน อักษร โรมัน ได้แต่ ถ้า ไม่ได้ สังเกต ให้ ดี แล้ว จะ ต้อง เข้าใจผิด คิดว่า เป็น เครื่องหมายการค้า อัน เดียว กัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ถ้า คน ไม่สามารถ อ่าน หรือไม่รู้ จัก อักษร โรมัน ด้วย แล้ว จะ ไม่สามารถ แยก ข้อแตกต่าง ระหว่างเครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ กับ ของ จำเลย ที่ 1 ได้ เพราะ ข้อแตกต่างระหว่าง เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ ภายใต้ เครื่องหมาย MICMAC กับ ของ จำเลย ที่ 1 ภายใต้ เครื่องหมาย MINMAX มี เฉพาะตัว อักษร สะกด คำ แรก จาก ตัว “C” เป็น ตัว “N” และ คำ หลังจาก ตัว “C” เป็น “X” เท่านั้น นอกจาก นี้ ถ้า เพียงแต่ ฟัง เสียง อ่าน หรือ เรียกขาน เครื่องหมายการค้า ภายใต้ เครื่องหมาย MINMAX ของ จำเลย ที่ 1 แล้ว จะ เห็น ได้ว่า พยางค์ แรก คือ คำ ว่า MIC และ MIN จะ ออกเสียง เป็น ภาษา ไทย ที่ มี พยัญชนะ “ม” ประสม ด้วย สระ ” ” เหมือนกันคง ต่างกัน เฉพาะ พยัญชนะ ที่ เป็น ตัว สะกด จาก “ค” เป็น “น” ซึ่ง เมื่อออกเสียง อ่าน หรือ เรียกขาน แล้ว เป็น “มิค” กับ “มิน” จะ เพี้ยน กันเล็กน้อย เท่านั้น ใน ทำนอง เดียว กัน พยางค์ หลัง คือ คำ ว่า MAC และ MAX ออกเสียง อ่าน หรือ เรียกขาน จะ เป็น เสียง พยัญชนะ “ม”ประสม ด้วย ” แ-ะ ” เหมือนกัน ต่างกัน เฉพาะ พยัญชนะ ที่ เป็น ตัว สะกดจาก “ก” เป็น “กซ์” ตาม ตัว สะกด ที่ โจทก์ สะกด มา ใน ฟ้อง เท่านั้นซึ่ง เมื่อ ออกเสียง อ่าน หรือ เรียกขาน แล้ว คำ ทั้ง สอง คำ นี้ ออกเสียง ว่า”แม็ก” หรือ “แม็กซ์” เหมือนกัน ส่วน ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา อ้างว่าเครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ มี อักษร M ประดิษฐ์ ประกอบ อยู่ ด้วย ซึ่ง แตกต่าง จาก เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 นั้น เห็นว่าข้อแตกต่าง ดังกล่าว เป็น ข้อ ปลีกย่อย เท่านั้น มิใช่ สาระสำคัญของ เครื่องหมายการค้า ของ โจทก์ และ จำเลย ที่ 1 ด้วย เหตุผล ดังกล่าวศาลฎีกา เห็นว่า เครื่องหมายการค้า MINMAX ที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอ จดทะเบียน คล้าย กับ เครื่องหมายการค้า MICMAC ตาม ทะเบียน เลขที่ 68807 ของ โจทก์ อัน จะ เป็น การ ลวง สาธารณชน ให้ หลงผิด ได้เมื่อ ฟัง ว่า เครื่องหมายการค้า ที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอ จดทะเบียนคล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ทะเบียน เลขที่ 68807 ของ โจทก์ ซึ่งจดทะเบียน ไว้ ก่อน แล้ว ก็ ไม่จำเป็น ต้อง วินิจฉัย ถึง ว่า เครื่องหมายการค้า ที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอ จดทะเบียน จะ คล้าย กับ เครื่องหมายการค้าทะเบียน เลขที่ 128959 และ 134898 ของ โจทก์ อีก ต่อไป หรือไม่เพราะ ลำพัง เครื่องหมายการค้า ที่ จำเลย ที่ 1 ยื่น ขอ จดทะเบียนคล้าย กับ เครื่องหมายการค้า ทะเบียน เลขที่ 68807 ของ โจทก์ ซึ่งจดทะเบียน ไว้ ก่อน แล้ว โจทก์ ก็ ชอบ ที่ จะ คัดค้าน และ ขอให้ จำเลย ทั้ง สองเพิกถอน การ จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ของ จำเลย ที่ 1 ได้ แล้ว
พิพากษายืน

Share