คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด 15 วัน ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ประกัน ดังนี้เท่ากับว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคสาม

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ ผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกันศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกัน ผู้ประกันยื่นคำร้องยื่นคำร้องขอลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นลดค่าปรับให้และอนุญาตให้ผ่อนชำระเงินเป็นงวด ๆ ถ้าไม่ชำระงวดใดงวดหนึ่งให้บังคับคดีต่อไปเต็มสัญญา ผู้ประกันชำระค่าปรับจำนวนหนึ่งแล้วไม่ชำระค่าปรับอีก ศาลชั้นต้นจึงบังคับคดีผู้ประกัน ต่อมาผู้ประกันยื่นคำร้องขอชำระค่าปรับอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเมื่อผู้ประกันผิดนัดชำระค่าปรับ จึงต้องบังคับคดีต่อไปเต็มสัญญาให้ยกคำร้อง
ผู้ประกันที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์เกินกว่า ๑๕ วัน จึงไม่รับอุทธรณ์ของผู้ประกัน
ผู้ประกันที่ ๒ อุทธรณ์คำสังที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ประกัน
ผู้ประกันทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ประกันที่ ๑ มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น คำสั่งศาลชั้นต้นย่อมถึงที่สุด ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย ฎีกาของผู้ประกันที่ ๑ สำหรับฎีกาของผู้ประกันที่ ๒ น้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของผู้ประกันที่ ๒ ผู้ประกันที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ประกันที่ ๒ เท่ากับว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๘ ทวิ วรรคสาม ผู้ประกันที่ ๒ จึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของผู้ประกันที่ ๒ เช่นกัน
พิพากษายกฎีกาของผู้ประกันทั้งสอง

Share