คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รอฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลคดีถึงที่สุดในคดีอื่น คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ส่วนการที่ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีชั่วคราว เมื่อคดีอื่นที่รอฟังผลนั้นถึงที่สุดเมื่อใด ให้โจทก์แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบเพื่อจะได้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการจำหน่ายคดีที่ไม่ให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวอีกเช่นกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175,177, 83, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 2 ลงวันที่21 พฤศจิกายน 2514 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าคดีนี้มีมูลสืบเนื่องมาแต่คดีหมายเลขแดงที่ 1956/2528 ของศาลชั้นต้นที่จำเลยยื่นฟ้องและเข้าเบิกความ คดีนั้นยังไม่ถึงที่สุด และข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวมีผลเกี่ยวพันถึงข้อเท็จจริงในคดีนี้จึงให้รอฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องของคดีนี้ไว้และให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความชั่วคราว เมื่อคดีหมายเลขแดงที่ 1956/2528 ของศาลชั้นต้นถึงที่สุดเมื่อใด ให้โจทก์แถลงศาลภายใน 15 วัน เพื่อยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาต่อไป โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นต้นตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รอฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งไว้โดยให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รอฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลคดีถึงที่สุดในคดีอื่น คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ส่วนการที่ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เมื่อคดีอื่นที่รอฟังผลนั้นถึงที่สุดเมื่อใด ให้โจทก์แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบเพื่อจะได้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวอีกเช่นกัน คำพิพากษาฎีกาที่ 1262/2504 ที่โจทก์อ้างมานั้นเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้อง แต่ศาลชั้นต้นมิได้รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาและไม่มีการไต่สวนมูลฟ้องแต่อย่างใด คงสั่งแต่ให้รอฟังผลคดีอื่นก่อนเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงไม่ตรงกับคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share