คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ร้องขอเป็นผู้พิทักษ์ผู้เสมือนไร้ความสามารถ เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฎว่าผู้เสมือนไร้ความสามารถถึงแก่กรรมลง ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะพิจารณากันต่อไปว่าผู้ร้องสมควรจะเป็นผู้พิทักษ์หรือไม่เพราะทรัพย์มรดกของผู้
ตาย ย่อมตกทอดไปยังทายาทโดยอำนาจแห่งกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาจึงต้องสั่งจำหน่ายคดีชั้นฎีกาเสีย

ย่อยาว

คดีนี้ ผู้ร้อง ร้องขอเป็นผู้พิทักษ์นายดำผู้เสมือนไร้ความสามารถ
ผู้คัดค้าน ร้องคัดค้านขอให้ตั้งพนักงานอัยการเป็นผู้พิทักษ์
ศาลชั้นต้นไต่สวน-พยานผู้ร้องแล้วงดสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านและมีคำสั่งว่า นายดำเป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ให้อยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๓๔.
ผู้คัดค้านอุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานผู้คัดค้านต่อไปแล้ว มีคำสั่งใหม่
ผู้ร้องฎีกา
คดีอยู่ในระหว่างฎีกา ปรากฏว่านายดำผู้เสมือนไร้ความสามารถได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะพิจารณากันต่อไปว่าสมควรให้ผู้ร้องเป็นผู้พิทักษ์นายดำผู้เสมือนไร้ความสามารถหรือไม่ เพราะทรัพย์มรดกของนายดำย่อมตกทอดไปยังทายาทโดยอำนาจแห่งกฎหมายตามมาตร ๑๕๙๙ แห่ง ป.ม.แพ่งฯ
แต่ที่ผู้ร้องคัดค้านขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีนั้น การจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเป็นเรื่องของศาลชั้นต้นเอง แต่เมื่อปรากฎว่านายดำถึงแก่กรรมเสียแล้วเช่นนี้ ศาลชั้นต้นก็คงสั่งจำหน่ายคดีโดยนัยข้อกฎหมายดังกล่าว.
ฉะนั้น จึงสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา ฯ.

Share