แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของฟ้องว่า โจทก์ซื้อห้องชุดพิพาทเลขที่ 30/540 จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาล และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี ขอให้จดทะเบียนระงับการจำนองแล้วโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าวให้โจทก์ โดยบรรยายสภาพแห่งข้อหาว่า โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยขอให้ออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย จำเลยให้การว่า กรณีห้องชุดเลขที่ 30/540 นั้น จำเลยตรวจสอบพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2538 ส. พนักงานของจำเลยเข้าครอบครองโดยสงบ เปิดเผย เจตนาเป็นเจ้าของจนถึงปัจจุบัน กรรมสิทธิ์จึงตกเป็นของ ส. แล้ว จึงเป็นเหตุให้จำเลยไม่สามารถออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ ประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การจึงมีว่าห้องชุดเลขที่ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่จำเลยจะต้องออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้หรือไม่เท่านั้น ไม่มีปัญหาว่าจำเลยค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อจำเลยหรือไม่ การที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์ค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นเหตุให้จำเลยไม่ยอมออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ เป็นการนำสืบนอกประเด็นคำให้การ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุโจทก์ไม่มีหลักฐานแสดงว่าโจทก์ได้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางพร้อมเบี้ยปรับห้องชุดดังกล่าวแก่จำเลย และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในประเด็นดังกล่าว จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 142
ส่วนคำให้การที่ต่อสู้เรื่องการครอบครองปรปักษ์นั้น จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าจำเลยครอบครองปรปักษ์ห้องพิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ แต่กลับอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์โดยไม่มีหลักฐานคำพิพากษาของศาลแสดงกรรมสิทธิ์ของบุคคลดังกล่าวหรือมีการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นของบุคคลอื่นแล้ว จึงเป็นคำให้การที่ไม่อาจทำให้ศาลวินิจฉัยให้จำเลยชนะคดีในประเด็นนี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ห้องชุดเลขที่ 30/540 ชั้นที่ 10 อาคารเลขที่ 1 ของอาคารชุดดอนเจดีย์แมนชั่น โครงการ 2 ทะเบียนอาคารชุดเลขที่ 14/2435 ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 27853, 27854, 27856 และ 27861 ตำบลบางเขน (ลาดโตนด) อำเภอเมืองนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี แก่โจทก์ ให้จำเลยดำเนินการให้บริการสิ่งสาธารณูปโภคในห้องชุดและการออกเสียงในการประชุมใหญ่แก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าเสียหายจากการขาดรายได้ 5,000 บาท ต่อเดือน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยไม่กระทำหรือกระทำการไม่ครบถ้วน ขอให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาและออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยชำระหนี้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับ (ที่ถูกค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ)
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังเป็นยุติ ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ประการแรกมีว่าจำเลยต้องออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้เพื่อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพิพาทให้โจทก์หรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของฟ้องว่าโจทก์ซื้อห้องชุดพิพาทเลขที่ 30/540 จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาล และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรีขอให้จดทะเบียนระงับการจำนองแล้วโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าวให้โจทก์ โดยบรรยายสภาพแห่งข้อหาว่า โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยขอให้ออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินการให้โจทก์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้โจทก์จดทะเบียนระงับจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ จำเลยให้การว่า กรณีห้องชุดเลขที่ 30/540 นั้น จำเลยตรวจสอบพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2538 นางสาวสุภาพ พนักงานของจำเลยเข้าครอบครองโดยสงบ เปิดเผย เจตนาเป็นเจ้าของจนถึงปัจจุบัน กรรมสิทธิ์จึงตกเป็นของนางสาวสุภาพแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1299 และ1300 โจทก์และพนักงานของโจทก์ทราบดี ไม่มีใครโต้แย้ง จึงเป็นเหตุให้จำเลยไม่สามารถออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ เพราะกรรมสิทธิ์ไม่ได้เป็นของโจทก์ ประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การจึงมีว่าห้องชุดเลขที่ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่จำเลยจะต้องออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้หรือไม่เท่านั้น ไม่มีปัญหาว่าจำเลยค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อจำเลยหรือไม่ การที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์ค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางของห้องดังกล่าวเป็นเหตุให้จำเลยไม่ยอมออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ เป็นการนำสืบนอกประเด็นคำให้การที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุโจทก์ไม่มีหลักฐานแสดงว่าโจทก์ได้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางพร้อมเบี้ยปรับห้องชุดดังกล่าวแก่จำเลย จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในประเด็นดังกล่าว จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 และเมื่อจำเลยไม่ได้ให้การว่าโจทก์ค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าปรับห้องชุดพิพาทดังกล่าวคงให้การต่อสู้เรื่องกรรมสิทธิ์ห้องชุดว่ามิใช่เป็นของโจทก์ และคำให้การที่ต่อสู้เรื่องการครอบครองปรปักษ์ กรรมสิทธิ์ไม่ได้เป็นของโจทก์นั้น จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าจำเลยครอบครองปรปักษ์ห้องพิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ แต่กลับอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์โดยไม่มีหลักฐานคำพิพากษาของศาลแสดงกรรมสิทธิ์ของบุคคลดังกล่าวหรือมีการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นของบุคคลอื่นแล้ว จึงเป็นคำให้การที่ไม่อาจทำให้ศาลวินิจฉัยให้จำเลยชนะคดีในประเด็นนี้ได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง และเพื่อความรวดเร็วแห่งคดี ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาคดีนี้ไปโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พิพากษากลับ ให้จำเลยออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ห้องชุดเลขที่ 30/540 ชั้น 10 อาคารเลขที่ 1 ของอาคารชุดดอนเจดีย์แมนชั่น โครงการ 2 ทะเบียนอาคารชุดเลขที่ 14/2535 บนที่ดินโฉนดเลขที่ 27853, 27854, 27856 และ 27861 ตำบลบางเขน (ลาดโตนด) อำเภอเมืองนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี และให้บริการสาธารณูปโภคแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 3,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องไปจนถึงวันที่จำเลยออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้แก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามในส่วนของการออกหนังสือรับรองการปลอดหนี้ให้ใช้คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา ส่วนค่าเสียหายให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยให้ออกขายทอดตลาดชำระจนครบถ้วน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ