คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นประธานสหภาพแรงงานยาสูบ เป็นผู้เขียนบทความลงในเอกสารสหภาพแรงงานยาสูบ โฆษณาเผยแพร่ว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้อำนวยการยาสูบว่า โจทก์เป็นผู้อำนวยการยาสูบที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดสติปัญญาความสามารถในการบริหารงาน เป็นผู้มีเจตนาทำลายศีลธรรมอันดีของพนักงานยาสูบ สร้างสถานการณ์สับสนวุ่นวายเพื่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ก้าวก่ายหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ทำลายระเบียบแบบแผนขั้นตอนในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม สมรู้ร่วมคิดกับสมุนเลวร้ายให้พนักงานบรรจุใหม่กระโดดข้ามหัวหน้างานเก่า สนับสนุนพวกที่ได้รับโทษทางวินัยขึ้นมาเสวยอำนาจเพื่อป้องกันการซัดทอดคอร์รัปชันให้พ้นตัว ไม่มีจิตสำนึกเห็นความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สหภาพแรงงานยาสูบกำลังถูกอำนาจป่าเถื่อนกลั่นแกล้งข่มขู่ลิดรอนอำนาจและหาทางกลั่นแกล้งพนักงานยาสูบบกพร่องในหน้าที่ ปล่อยให้ผลประโยชน์ของโรงงานยาสูบรั่วไหลอยู่ในมือพ่อค้า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรมหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ไม่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม แต่เป็นการใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง
กรณีที่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ได้กระทำโดยการโฆษณา ซึ่งกฎหมายได้บัญญัติให้เหตุที่ต้องรับโทษหนักขึ้นไว้ในมาตรา 328 นั้น เป็นการลำดับการลงโทษเป็นชั้น ๆ ไปตามลักษณะฉกรรจ์ มิใช่เป็นการกระทำความผิดหลายบทตามมาตรา 90

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘, ๓๙๓, ๙๐
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘ ให้ลงโทษตาม มาตรา ๓๒๘ ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าจำเลยดำรงตำแหน่งเป็นประธานสหภาพแรงงานยาสูบ เป็นผู้เขียนข้อความตามเอกสารหมาย จ.๑ แจกจ่ายไปยังพนักงานยาสูบทั่วประเทศ ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์นำสืบว่าข้อความที่จำเลยเขียนตามเอกสารหมาย จ.๑ ไม่เป็นความจริง ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี โจทก์บริหารงานภายใต้บังคับบัญชาของคณะกรรมการอำนวยการโรงงานยาสูบ ถ้าเป็นความจริงตามเอกสารหมาย จ.๑ คณะกรรมการดังกล่าวคงจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับตัวโจทก์ส่วนจำเลยนำสืบว่า การเขียนข้อความตามเอกสารหมาย จ.๑ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามครองธรรม ได้ตรวจพิเคราะห์ข้อความในเอกสารหมาย จ.๑ ข้อความที่ว่าฝ่ายบริหารของโรงงานยาสูบ โดยเฉพาะผู้อำนวยการยาสูบ บริหารงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ บกพร่องในหน้าที่ ปล่อยให้ผลประโยชน์อันพึงได้ของโรงงานยาสูบต้องรั่วไหลอยู่ในกำมือของพ่อค้า ขาดสติปัญญา ความสามารถในการบริหารงานให้ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า มีเจตนาที่จะทำลายศีลธรรมอันดีงามของพนักงานยาสูบเกี่ยวกับคุณธรรม พยายามสร้างสถานการณ์สับสนวุ่นวายอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานขึ้นในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ปฏิบัติการรวบอำนาจก้าวก่ายสิทธิหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ทำลายระเบียบแบบแผน ขั้นตอน บรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย อย่างไม่เป็นธรรม ใช้อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการสร้างอำนาจให้แก่ตนเองด้วยการดึงสมัครพรรคพวกมาบริหารงานในตำแหน่งสำคัญ ๆ โดยทางลัดสมรู้ร่วมคิดกับสมุนเลวร้ายจัดระบบแบบก้าวกระโดด ให้พนักงานบรรจุใหม่กระโดดข้ามหัวพนักงานเก่าสนับสนุนพวกที่ได้รับโทษทางวินัยเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องจักร ร.ย.ส.๕ ขึ้นมาเสวยอำนาจเพื่อป้องกันการซัดทอดคอร์รัปชันให้พ้นตัว….ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการยาสูบ ได้ก่อหนี้สินรุงรังท่วมท้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งยังไม่เคยปรากฏว่ามีผู้อำนวยการคนไหนในอดีตที่ผ่านมาจะทำความผิดหวังให้แก่พนักงานยาสูบอย่างแสนสาหัสเหมือนในครั้งนี้ แม้กระทั่งผู้จัดการโรงผลิตบุหรี่ฝ่ายผลิตก็ถูกบีบบังคับให้มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนอย่างกระทันหัน…. ขาดคุณสมบัติตำแหน่งผู้อำนวยการ…..ไม่มีจิตสำนึกเห็นความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพรมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งชาติสมควรจะเทิดทูนไว้เหนือสิ่งใด ถึงกับบังอาจมีคำสั่งให้ผู้จัดการโรงผลิตยาสูบชักชวนปลุกระดมให้พนักงานปฏิบัติงานในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๕ โดยที่ทราบดีอยู่แล้วว่าในวันดังกล่าวแม้รัฐบาลเองก็ออกประกาศให้เป็นวันหยุดราชการทั่วประเทศ แต่ฝ่ายบริหารโรงงานยาสูบไม่สนใจในสถาบันอันสูงส่งนี้เลย…ผู้จัดการ ร.ย.ส.๔ ก็พลอยต้องรับเคราะห์ไปด้วยเพราะเป็นผู้รับบัญชามาจากหน่วยเหนือ สหภาพ ฯ เห็นใจนึกว่าเป็นกรรมก็แล้วกันที่บังเอิญมีผู้บังคับบัญชาที่ไม่รับผิด รับแต่ชอบเช่นนี้….. สหภาพ ฯ เองก็กำลังถูกอำนาจป่าเถื่อนของฝ่ายบริหารกลั่นแกล้งข่มขู่ลิดรอนอำนาจจนไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากฝ่ายบริหารได้…… ได้ถูกผู้อำนวยการยาสูบเหยียบย่ำจนไม่เหลือโครงสร้างไว้ให้สัมผัส……. ผมในฐานะที่เป็นกรรมการของสหภาพแรงงานยาสูบ และได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาอยู่ด้วย บอกตรง ๆ ผมมีความละอายใจและแสนจะอัปยศในการสรุปผลการสอบสวนของคณะกรรมการฝ่ายบริหาร ตลกสิ้นดี ตลกอย่างมหากาฬ มันเป็นตลกอาฆาต ซึ่งผมเล่นบทตลกอย่างนี้ไม่เป็นและไม่เคยคิดจะเล่น ขอให้ติดตามบทตลกนี้ต่อไปภายในไม่ช้าไม่นานเกินรอ…. บัดนี้มหาภัยกำลังคืบคลานเข้ามาทำลายองค์กรของเรา ถ้าท่านไม่ช่วยกันปกป้องคุ้มครองรักษาไว้ สักวันหนึ่งตัวท่านเองจะต้องถูกทำลายไปด้วยในที่สุด….. ผมในฐานะประธานสหภาพแรงงานยาสูบ (นายวิทย์ บริสุทธิ์กุล) ไม่สามารถจะต่อสู้กับความเลวร้ายของฝ่ายบริหารโดยลำพังได้อีกต่อไป ผมได้ใช้ความพยายามต่อสู้ในด้านสันติวิธีตลอดมา เพราะไม่อยากทำอะไรรุนแรง ซึ่งอาจกระทำให้รัฐบาลต้องพลอยเดือดร้อนและมีภาระในด้านแรงงานอย่างไม่รู้จบสิ้น จึงใช้วิธีออกเป็นข่าวสารเพื่อให้ฝ่ายบริหารรู้สำนึก และเลิกก่อกรรมทำเข็ญจองเวรกับพนักงาน วิงวอนให้ใช้เมตตาธรรมในด้านปกครอง แต่ความพยายามของผมไม่สามารถยับยั้งความบ้าคลั่งของฝ่ายบริหารได้ กลับถูกคุกคามหนักข้อขึ้น…… ขณะนี้ผมหมดทางเลือกเพราะฝ่ายบริหารบีบสหภาพแรงงานยาสูบให้เข้ามุมอับ สหภาพ ฯ และสมาชิกเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า คนชั่วมีอำนาจเพียงคนเดียว สามารถสร้างอำนาจด้วยการเพาะเชื้อความชั่วให้ระบาดในกลุ่มของตน แต่คนที่เกลียดชังความชั่วจำนวนหลายพันคนจะรวมตัวกันขจัดคนชั่วเพียงคนเดียวเพื่อให้การแพร่เชื้อหมดสิ้นไปจากวงการยาสูบ ถ้าทำไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป และในเอกสารหมาย จ.๑ ตอนท้ายมีข้อความว่า หลังจากวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๒๕ ไปแล้ว จึงจะดำเนินการรวมตัวกันเพื่อให้รัฐบาลได้ทราบว่ามีพนักงานยาสูบไม่ต้องการผู้อำนวยการคนนี้จริง ๆ หาใช่เพราะประธานสหภาพ ฯ เพียงคนเดียวที่สร้างสถานการณ์ข่าวลือขึ้น และในวันนั้นจะเป็นวันที่ตัดสินกันเลยว่าระหว่างประธานสหภาพแรงงานยาสูบ (นายวิทย์ บริสุทธิ์กุล) กับผู้อำนวยการยาสูบ (นายวานิช จันทรอุไร) พนักงานยาสูบจะเชื่อความบริสุทธิ์ของใคร และโจทก์ได้นำสืบนายสุรัตน์ ศิริเวทิน นางพนมพร เวชสาร หม่อมราชวงศ์ทัศนัย สุริยง นางสาวสมคิด นนทรีย์ นายอนงค์ พานิชกุล นายนาวา มารุ่งเรือง และนายเสรี ปานสุวรรณ เป็นพยาน และพยานดังกล่าวนี้ต่างก็เบิกความเป็นในทำนองเดียวกันว่า ข้อความในเอกสารหมาย จ.๑ เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นโจทก์ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เห็นว่าเมื่อได้อ่านข้อความดังกล่าวในเอกสารหมาย จ.๑ ประกอบกันแล้วก็ได้ความว่า จำเลยเขียนข้อความว่า โจทก์เป็นผู้อำนวยการยาสูบที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดสติปัญญาความสามารถในการบริหารงาน เป็นผู้มีเจตนาทำลายศีลธรรมอันดีของพนักงานยาสูบสร้างสถานการณ์สับสนวุ่นวายเพื่อให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานในกลุ่มผู้ใช้แรงงานก้าวก่ายหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ทำลายระเบียบแบบแผนขั้นตอนในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม สมรู้ร่วมคิดกับสมุนเลวร้ายให้พนักงานบรรจุใหม่กระโดดข้ามหัวพนักงานเก่า สนับสนุนพวกที่ได้รับโทษทางวินัยขึ้นมาเสวยอำนาจเพื่อป้องกันการซัดทอดคอร์รัปชันให้พ้นตัว ไม่เคยปรากฏว่ามีผู้อำนวยการคนไหนในอดีตที่ผ่านมาจะกระทำความผิดหวังให้แก่พนักงานยาสูบอย่างแสนสาหัสเหมือนครั้งนี้ ไม่มีจิตสำนึกเห็นความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สหภาพแรงงานยาสูบกำลังถูกอำนาจป่าเถื่อนกลั่นแกล้งข่มขู่ลิดรอนอำนาจและหาทางกลั่นแกล้งพนักงานยาสูบ บกพร่องในหน้าที่ ปล่อยให้ผลประโยชน์ของโรงงานยาสูบรั่วไหลอยู่ในมือพ่อค้า ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ไม่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม แต่เป็นการใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง
แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๒๘ ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา ๙๐ นั้น ยังไม่ถูกต้อง เพราะการที่ความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ซึ่งกฎหมายได้บัญญัติให้เป็นเหตุที่ต้องรับโทษหนักขึ้นไว้ในมาตรา ๓๒๘ นั้น เป็นการลำดับการลงโทษเป็นชั้น ๆ ไปตามลักษณะฉกรรจ์ มิใช่เป็นการกระทำความผิดหลายบทตามมาตรา ๙๐ แต่อย่างใด เห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๘ ให้จำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท แต่จำเลยกล่าวหมิ่นประมาทโจทก์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ มิใช่เรื่องส่วนตัว และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ คำขอนอกจากนี้ให้ยก

Share