แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลชั้นต้นจะได้พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินแก่โจทก์แล้วก็ตาม หากปรากฏว่าการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำโดยไม่ชอบ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ทราบว่าตนถูกฟ้อง และจำเลยที่ 3 ได้ยักยอกลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 ที่ลงในกระดาษเปล่ามากรอกข้อความเอาเองว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นเข้าใจผิดว่าเป็นใบมอบอำนาจที่แท้จริงและได้พิพากษาไปตามยอมให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 รับผิดใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยที่ 3 ได้แสดงเจตนาแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งได้รับความเสียหายจากการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบก็ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขให้ดำเนินกระบวนพิจารณานั้น ๆ ใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา27 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินตามเช็ค พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 3 นำหนังสือมอบอำนาจของจำเลยที่ 1 ที่ 2 มาแสดงต่อศาลในการตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่12 พฤษภาคม 2531 ให้จำเลยทั้งสามใช้เงินแก่โจทก์โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน ผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดถือว่าผิดนัดทั้งหมดให้บังคับคดีได้ทันที ต่อมาศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ ซึ่งอ้างว่าจำเลยทั้งสามผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม วันที่ 8มิถุนายน 2531 โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและอายัดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1
วันที่ 8 มิถุนายน 2531 จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมแล้ว หากผู้ร้องอ้างว่าเกิดจากการฉ้อฉลก็ชอบที่จะอุทธรณ์ต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ส่วนที่อ้างว่าการส่งหมายไม่ชอบจะต้องยกขึ้นกล่าวก่อนศาลพิพากษา กรณีไม่อาจพิจารณาใหม่ตามคำร้อง จึงให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้ออ้างตามคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ 2ในเรื่องที่ว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องแก่จำเลยที่ 1 ที่ 2กระทำโดยไม่ชอบเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องจึงไม่มีโอกาสได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี หากการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องกระทำโดยชอบ จำเลยที่ 1 ที่ 2 สามารถยื่นคำให้การต่อสู้คดีและพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ว่าจำเลยที่ 3 มอบเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยไม่มีมูลหนี้ โจทก์จึงหาใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริตไม่ ศาลย่อมจะพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ชนะคดี และในเรื่องที่จำเลยที่ 3ยักยอกลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1ซึ่งลงไว้ในกระดาษเปล่ามากรอกข้อความเอาเองว่าจำเลยที่ 1ที่ 2 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์เป็นเหตุให้ศาลเข้าใจผิดว่าใบมอบอำนาจดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริงจึงได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 รับผิดใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยที่ 3 ได้แสดงเจตนาแทน คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงไม่ถูกต้องนั้น ล้วนเป็นเหตุที่จำเลยที่ 1 ที่ 2แสดงเพื่อให้ศาลเห็นว่ากระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นเริ่มตั้งแต่การส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 จนกระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 รับผิดชำระเงินแก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 74(2), 173 ที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมและเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และคำพิพากษาตามยอมไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ที่ 2 อันเป็นการอ้างว่า การพิจารณาผิดระเบียบนั่นเอง ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบเสียได้ หรือสั่งแก้ไขให้ดำเนินกระบวนพิจารณานั้น ๆ ใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป จำเลยที่ 1 ที่ 2หาได้อ้างเหตุตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง เพื่อขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ไม่ และแม้เป็นคำขอพิจารณาคดีใหม่ ถ้าข้ออ้างตามคำร้องอ้างเหตุมาให้เห็นว่า ถ้าเป็นจริงตามคำร้องจะทำให้กระบวนพิจารณาที่ผ่านมาเป็นไปโดยไม่ชอบ โดยยื่นมาในกำหนดเวลาที่สามารถจะยื่นได้ ศาลก็ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องว่าเป็นประการใด ดังนั้น ที่จำเลยที่ 1ที่ 2 มีคำขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งให้หยิบยกคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่จึงพออนุโลมได้ว่า เป็นการขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ผู้เป็นคู่ความที่ได้รับความเสียหายจากการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบยื่นคำร้องขอศาลชั้นต้นชอบที่จะรับคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไว้ดำเนินการไต่สวนต่อไปตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2536 คดีระหว่างพันโทธวัชชัย เด่นดวง โจทก์ นางสาวสายฝน ขุมเพ็ชร์ ที่ 1นายทรงพล ประสิทธิโชค ที่ 2 จำเลย
พิพากษากลับ ให้รับคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไว้ไต่สวนต่อไปค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่แล้วแต่กรณี