แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองอ้างว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้มีข้อความว่า จำเลยทั้งสองสั่งซื้อสินค้าอะไร เมื่อไร จำนวนเท่าใดจำเลยทั้งสองได้รับสินค้าจากโจทก์แล้วหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า ตั้งแต่ต้นปี 2536 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 จำเลยทั้งสองซื้อกระดาษหลายประเภทจากโจทก์ หลายครั้งรวมเป็นเงิน 173,868.50 บาท จำเลยทั้งสองได้รับ กระดาษดังกล่าวแล้ว ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์บรรยายข้อความที่ จำเลยทั้งสองอ้างข้างต้นว่าไม่มี ไว้ครบถ้วนแล้ว และที่จำเลย ทั้งสองอ้างว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าการชำระเงินต้องชำระ กันอย่างไร จำเลยทั้งสองผิดนัดตั้งแต่เมื่อใด โจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยเมื่อไร จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมนั้น ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุช่วงเวลาที่จำเลยทั้งสองซื้อสินค้าจากโจทก์และรับสินค้าดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2536 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2536แม้จะไม่ได้ระบุวันถึงกำหนดใช้ราคา แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 490 บัญญัติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเวลากำหนดใช้ราคาเดียวกันกับเวลาที่ส่งมอบทรัพย์สินซึ่งขายนั้น จึงเข้าใจได้ว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่รับสินค้าและไม่ใช้ราคาแล้ว และแม้โจทก์จะมิได้ระบุวันเดือนปีที่โจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ย แต่โจทก์ระบุว่าโจทก์ขอคิดดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเพียง 5 เดือน โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2537 หากนับแต่วันสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 อันเป็นวันที่โจทก์ระบุว่าจำเลยทั้งสองซื้อกระดาษจากโจทก์เป็นครั้งสุดท้ายถึงวันฟ้องจะเป็นเวลา 6 เดือนเศษ แต่โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยเพียง 5 เดือนเท่านั้น เมื่อเริ่มนับแต่วันฟ้องย้อนหลังไป 5 เดือน ก็จะสามารถคำนวณเงินค่าดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องได้ จึงไม่จำเป็นต้องระบุวันเดือนปีที่โจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยอีกฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ตั้งแต่ต้นปี 2536 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 จำเลยทั้งสองซื้อกระดาษหลายประเภทจากโจทก์หลายครั้ง รวมเป็นเงิน 173,868.50 บาท จำเลยทั้งสองได้รับกระดาษดังกล่าวแล้วแต่ไม่ยอมชำระหนี้โจทก์มีหนังสือทวงถามแล้วจำเลยทั้งสองไม่ยอมชำระ โจทก์คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเพียง 5 เดือน เป็นเงิน5,745 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 189,613.50 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 189,613.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 183,868.50 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องของโจทก์มิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจำเลยทั้งสองสั่งซื้อสินค้าของโจทก์เมื่อใด จำนวนเท่าใด สินค้าอะไรบ้างจำเลยทั้งสองได้รับสินค้าแล้วหรือไม่การซื้อสินค้ากำหนดชำระราคากันอย่างไร จำเลยทั้งสองผิดนัดเมื่อใด และโจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยเมื่อใด คำขอท้ายฟ้องที่ให้จำเลยทั้งสองใช้เงินแก่โจทก์ 183,868.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองไม่ทราบว่าโจทก์คิดจากยอดหนี้จำนวนเท่าใด หรือรวมทั้งดอกเบี้ยที่คิดแล้วด้วย ซึ่งเป็นการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ต้องห้ามตามกฎหมาย จึงเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม จำเลยทั้งสองมิได้เป็นหนี้ค่าซื้อกระดาษประเภทต่าง ๆ ไม่เคยได้รับสินค้าดังกล่าวตามระยะเวลาที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จำเลยทั้งสองเคยซื้อกระดาษจากโจทก์แต่ชำระราคาเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน173,868.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงิน 105,450 บาท นับแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2536จากต้นเงิน 105,450 บาท นับแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2536เป็นต้นไปจากต้นเงิน 21,275.50 บาท นับแต่วันที่ 14มิถุนายน 2536 เป็นต้นไปจากต้นเงิน 10,740 บาท นับแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2536 เป็นต้นไปจากต้นเงิน 21,340 บาทนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2536 เป็นต้นไปจากต้นเงิน 13,765บาท นับแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2536 เป็นต้นไปจากต้นเงิน1,298 บาท นับแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน173,868.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเป็นเวลา 5 เดือน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีเพียงประเด็นเดียวว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ พิเคราะห์แล้วที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้มีข้อความว่าจำเลยทั้งสองสั่งซื้อสินค้า อะไร เมื่อไรจำนวนเท่าใด จำเลยทั้งสองได้รับสินค้าจากโจทก์แล้วหรือไม่นั้นเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า ตั้งแต่ต้นปี 2536 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 จำเลยทั้งสองซื้อกระดาษหลายประเภทจากโจทก์หลายครั้งรวมเป็นเงิน 173,868.50 บาท จำเลยทั้งสองได้รับกระดาษดังกล่าวแล้ว คำฟ้องของโจทก์บรรยายข้อความที่จำเลยทั้งสองอ้างข้างต้นว่าไม่มี ไว้ครบถ้วนแล้ว และที่จำเลยทั้งสองอ้างว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าการชำระเงินต้องชำระกันอย่างไร จำเลยทั้งสองผิดนัดตั้งแต่เมื่อใดโจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยเมื่อไร จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมนั้นเห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุช่วงเวลาที่จำเลยทั้งสองซื้อสินค้าจากโจทก์และรับสินค้าดังกล่าวว่าตั้งแต่ต้นปี 2536ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 แม้จะไม่ได้ระบุวันถึงกำหนดใช้ราคา แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 490บัญญัติว่าให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเวลากำหนดใช้ราคาคือเวลาเดียวกันกับเวลาที่ส่งมอบทรัพย์สินซึ่งขายนั้น จึงเข้าใจได้ว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่รับสินค้าและไม่ใช้ราคาแล้ว และแม้โจทก์จะมิได้ระบุวันเดือนปีที่โจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยแต่โจทก์ระบุว่าโจทก์ขอคิดดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเพียง 5 เดือน โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 27มกราคม 2537 หากนับแต่วันสิ้นเดือนมิถุนายน 2536 อันเป็นวันที่โจทก์ระบุว่าจำเลยทั้งสองซื้อกระดาษจากโจทก์เป็นครั้งสุดท้ายถึงวันฟ้องจะเป็นเวลา 6 เดือนเศษ แต่โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยเพียง 5 เดือน เท่านั้น เมื่อเริ่มนับแต่วันฟ้องย้อนหลังไป 5 เดือน ก็จะสามารถคำนวณเงินค่าดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องได้ จึงไม่จำเป็นต้องระบุวันเดือนปีที่โจทก์เริ่มคิดดอกเบี้ยอีก ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมชอบแล้ว
พิพากษายืน