แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีก่อนประเด็นที่สำคัญของคดีก็คือโจทก์ในคดีดังกล่าวได้ครอบครองที่พิพาทไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของที่ติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่จำเลยเบิกความแต่เพียงว่าผ.ยกที่พิพาทให้โจทก์ในคดีดังกล่าวแต่ผู้เดียวจึงเป็นข้อเท็จจริงในส่วนปลีกย่อยไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177, 83
ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3
ระหว่างพิจารณา โจทก์ที่ 2 ถึงแก่กรรม นางสาวขวัญฤดีกิจเจริญ บุตรโจทก์ที่ 2 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3 ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรคแรก จำคุกคนละ 6 เดือน
จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีก่อนประเด็นที่สำคัญของคดีก็คือโจทก์ในคดีดังกล่าวได้ครอบครองที่พิพาทไว้โดยสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ จำเลยที่ 2และที่ 3 เบิกความแต่เพียงว่านายผลยกที่พิพาทให้โจทก์ในคดีดังกล่าวแต่ผู้เดียว จึงเป็นข้อเท็จจริงในส่วนปลีกย่อยไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
พิพากษายืน