แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การซื้อขายที่ดินเป็นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินผู้มีกรรมสิทธิ์ย่อมมีอำนาจขายได้ สิทธิของจำเลยกับเจ้าของที่ดินตามที่อ้างว่าได้ทำสัญญากันไว้ให้จำเลยมีโอกาสซื้อที่ดินส่วนที่จำเลยเช่าได้ก่อนคนอื่นนั้นไม่ผูกพันโจทก์หากเจ้าของที่ดินผิดสัญญากับจำเลยก็ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหาก การซื้อขายที่ดินระหว่างโจทก์กับเจ้าของที่ดินมิใช่กรณีที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย หรือเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่ประการใด นิติกรรมหาเป็นโมฆะกรรมไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินมีโฉนดจากนางแจ่มจันทร์โดยสุจริตมีค่าตอบแทนได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ก่อนโจทก์ซื้อที่ดิน จำเลยได้เช่าที่ดินเนื้อที่ประมาณ ๓๕ ตารางวา ปลูกบ้านมีกำหนด ๓ ปี ครบกำหนดและนางแจ่มจันทร์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป เมื่อที่ดินเป็นของโจทก์แล้ว โจทก์ได้บอกให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านออกไป
จำเลยให้การว่า นางแจ่มจันทร์กับผู้รับเหมาก่อสร้างได้จัดสรรที่ดินให้เช่าและขายบ้านที่ปลูกอยู่บนที่ดิน จำเลยได้ซื้อบ้านและทำสัญญาเช่าที่ดินซึ่งมีข้อสัญญาว่านางแจ่มจันทร์ต้องเปิดโอกาสให้จำเลยซื้อที่ดินนั้นก่อนคนอื่นโจทก์ทราบข้อผูกพันอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนดังกล่าวแล้ว กลับลักลอบโอนขายที่ดินกันโดยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบ สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับนางแจ่มจันทร์มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและไม่สุจริตตกเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านเลขที่ ๒๐๕ ออกจากที่ดินของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยอ้างว่าสัญญาเช่าที่ดินระหว่างจำเลยกับนางแจ่มจันทร์มีข้อตกลงอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนให้จำเลยมีโอกาสซื้อที่ดินส่วนที่จำเลยเช่าได้ก่อนคนอื่น และโจทก์ทราบข้อตกลงนั้นแล้วแต่โจทก์กับนางแจ่มจันทร์ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันโดยไม่แจ้งให้จำเลยทราบสัญญาซื้อขายที่ดินจึงมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนตกเป็นโมฆะ เห็นว่า การซื้อขายที่ดินเป็นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สิน ผู้มีกรรมสิทธิ์ย่อมมีอำนาจขายได้สิทธิของจำเลยกับเจ้าของที่ดินตามที่อ้างไม่ผูกพันโจทก์ หากเจ้าของที่ดินผิดสัญญากับจำเลยก็ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหาก การซื้อขายที่ดินรายนี้มิใช่กรณีที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่ประการใดนิติกรรมหาเป็นโมฆะกรรมไม่
พิพากษายืน