แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถ้อยคำที่จำเลยร้องตะโกนกล่าววาจาแก่ผู้เสียหายซึ่งหน้าและต่อหน้าธารกำนัลในเวลากลางคืนว่า’อ้ายชั้นมึงหากูความอาญาหรือลูกกะโปกกูไม่หดกูลูกนางจักร์โว้ยไม่ใช่ลูกบ้านน้ำเค็มจะเอายังไงก็เอาซีวะจะเอาอ้ายแจะติดคุกก็ได้’ นั้นเป็นข้อความที่หยาบคายไม่สุภาพ แต่ไม่มีข้อความอันเป็นการดูหมิ่นนายชั้นผู้เสียหาย จึงไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 แต่ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวประกอบกับวิธีกล่าวและเวลาที่จำเลยกล่าว ย่อมทำให้นายชั้นผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา397 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร้องตะโกนกล่าววาจาดูหมิ่นนายชั้นผู้เสียหายซึ่งหน้า และต่อหน้าธารกำนัล ในเวลากลางคืนว่า อ้ายชั้นมึงหากูความอาญาหรือ ลูกกะโปกกูไม่หด กูลูกนางจักร์โว้ย ไม่ใช่ลูกบ้านน้ำเค็ม จะเอายังไงก็เอาซีวะ จะเอาอ้ายแจะให้ติดคุกก็ได้”ทำให้นายชั้นได้รับความอับอาย เดือนร้อนรำคาญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393, 397
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า “ถ้อยคำที่จำเลยตะโกนกล่าวต่อนายชั้นนั้นเป็นข้อความที่หยาบคายไม่สุภาพ แต่ไม่มีข้อความอันเป็นการดูหมิ่นนายชั้น จึงไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าตามมาตรา 393 แต่ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวประกอบกับวิธีกล่าวและเวลาที่จำเลยกล่าวย่อมกระทำให้นายชั้นได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397” พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์จำเลย