แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นและเข้าเล่นพนันโดยเป็นเจ้ามือ จำคุก 4 เดือน และปรับ 600บาท ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นในฐานะลูกค้าเท่านั้น พิพากษาแก้ ลงโทษปรับสถานเดียว 600 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 220ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันกับพวกเล่นการพนันโปปั่นอันเป็นการพนันประเภทห้ามขาด ตามบัญชี ก. อันดับที่ 2 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยนี้เป็นผู้จัดให้มีการเล่นและเข้าเล่นพนันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ทั้งนี้โดยไม่มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 10, 12, 15 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 และสั่งจ่ายค่าสินบนนำจับที่มีผู้นำจับขอรับสินบนด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่า จำเลยได้จัดให้มีการเล่นพนันโปปั่นและเป็นเจ้ามือในการเล่นพนัน พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษมาท้ายฟ้อง ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 4 เดือนและปรับ 600 บาท บังคับค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จ่ายค่าสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยเข้าเล่นการพนันโปปั่นในฐานะลูกค้าเท่านั้น พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 12(1) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 ให้ปรับ 900 บาท ปรานีลดโทษเพราะมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้หนึ่งในสาม คงเหลือโทษปรับ600 บาท และให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานโจทก์พอฟังว่าจำเลยเข้าเล่นการพนันเป็นเจ้ามือและเป็นผู้จัดให้มีการเล่น ขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ได้บัญญัติห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มีหรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัตินี้รวมไว้ในมาตราเดียวกัน และกำหนดโทษไว้ในพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2504 มาตรา 3 รวมกันทั้งผู้จัดให้มีการเล่นและผู้เข้าเล่นแตกต่างกันเฉพาะระดับการลงโทษ ผู้จัดให้มีการเล่นและผู้เข้าเล่นเท่านั้น คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้มีและเข้าเล่นพนันเป็นเจ้ามือให้จำคุก 4 เดือน และปรับ 600 บาท เป็นว่า จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นพนันในฐานะลูกค้า ให้ปรับสถานเดียว 600 บาท โดยลดให้ในเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามแล้ว ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้มาก แต่ก็อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
พิพากษายกฎีกาโจทก์