คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3861/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการทำสัญญาจำนองที่ดินแก่โจทก์จำเลยที่4แจ้งที่อยู่ลงในสัญญาจำนองว่าอยู่บ้านเลขที่483/2-3ถนนศรีอยุธยาแขวงถนนพญาไทเขตราชเทวี กรุงเทพมหานครและโจทก์ก็บรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลยที่4มีที่อยู่ดังกล่าวโดยโจทก์ได้ยื่นสำเนาทะเบียนบ้านที่คัดรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันยื่นฟ้อง3วันก็ปรากฎว่าจำเลยที่4มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวพร้อมบุตรผู้เยาว์2คนอายุ2ปีและ4ปีการที่จำเลยที่4ย้ายไปที่อยู่ใหม่ภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีโดยจำเลยที่4มิได้แจ้งที่อยู่ใหม่ให้โจทก์และศาลชั้นต้นทราบทั้งไม่มีชื่อบุตรผู้เยาว์ย้ายไปอยู่ด้วยและภูมิลำเนาของจำเลยที่4ตามหลักฐานที่ปรากฎในขณะส่งคำบังคับคือบ้านเลขที่483/2-3ถนนผศรีอยุธยาแขวงถนนพญาไทเขตราชเทวี กรุงเทพมหานครดังนั้นการส่งคำบังคับให้แก่จำเลยที่4ตามภูมิลำเนาดังกล่าวจึงชอบแล้ว แม้ในขณะปิดคำบังคับตามคำสั่งศาลจำเลยที่4จำได้ย้ายไปอยู่ที่อยู่ใหม่แล้วคือบ้านเลขที่45/323หมู่ที่5ถนนสุขาภิบาล1แขวงคลองกุ่มเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานครแต่เมื่อถือว่าจำเลยที่4ได้รับคำบังคับโดยชอบแล้วจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนหมายบังคับคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ขอบังคับคดีและนำที่ดินดังกล่าวของจำเลยที่ 4 รายจำนองโจทก์ เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดและขออนุญาตศาลชั้นต้นเพื่อขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว
จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ไม่เคยได้รับคำบังคับเนื่องจากจำเลยที่ 4 ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่บ้านเลขที่ 45/323 หมู่ที่ 5 ถนนสุขาภิบาล 1 แขวงคลองกุ่มเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2536อันเป็นวันก่อนที่จะมีการส่งคำบังคับ การที่โจทก์นำส่งคำบังคับแก่จำเลยที่ 4 ณ บ้านเลขที่ 483/2-3 ถนนศรีอยุธยาแขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนหมายบังคับคดีและการบังคับคดีทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 โดยให้โจทก์ดำเนินการนำส่งหมายคำบังคับแก่จำเลยที่ 4 ตามภูมิลำเนาที่แท้จริงของจำเลยที่ 4 ตามกฎหมายต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งให้นัดพร้อมโจทก์จำเลยที่ 4และเจ้าพนักงานบังคับคดีมาสอบถาม
ในวันนัดพร้อมเพื่อสอบถาม ทนายโจทก์ และเจ้าพนักงานบังคับคดีมาศาล ส่วนจำเลยที่ 4 ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยที่ 4 ไม่ติดใจที่จะให้ศาลสอบถามตามคำร้องให้ยกคำร้อง
จำเลย ที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยที่ 4ว่ามีเหตุสมควรที่จะเพิกถอนหมายบังคับคดีหรือไม่ จำเลยที่ 4ฎีกาอ้างว่าจำเลยที่ 4 มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ตามที่ได้มีการส่งคำบังคับ การส่งคำบังคับจึงไม่ชอบ เห็นว่าแม้จำเลยที่ 4จะอ้างว่าย้ายไปอยู่ที่อยู่ใหม่ แต่ปรากฎว่าในการทำสัญญาจำนองที่ดินแก่โจทก์ จำเลยที่ 4 แจ้งที่อยู่ลงในสัญญาจำนองว่าอยู่บ้านเลขที่ 483/2-3 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไทเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และโจทก์ก็บรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลยที่ 4 มีที่อยู่ดังกล่าว โดยโจทก์ได้ยื่นสำเนาทะเบียนบ้านที่คัดรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันยื่นฟ้อง 3 วัน ปรากฎว่าจำเลยที่ 4 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวพร้อมบุตรผู้เยาว์ 2 คน อายุ 2 ปีและ 4 ปี การที่จำเลยที่ 4 ย้ายไปที่อยู่ใหม่ภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีแล้ว โดยจำเลยที่ 4 มิได้แจ้งที่อยู่ใหม่ให้โจทก์และศาลชั้นต้นทราบทั้งไม่มีชื่อบุตรผู้เยาว์ย้ายไปอยู่ด้วยจึงรับฟังได้ว่าภูมิลำเนาของจำเลยที่ 4 ตามหลักฐานที่ปรากฎในขณะส่งคำบังคับคือบ้านเลขที่ 483/2-3 ถนนศรีอยุธยาแขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร การส่งคำบังคับให้แก่จำเลยที่ 4 ตามภูมิลำเนาดังกล่าวโดยการปิดคำบังคับตามคำสั่งของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว แม้จะฟังตามข้ออ้างของจำเลยที่ 4ว่า ในขณะปิดคำบังคับจำเลยที่ 4 ได้ย้ายไปอยู่ที่อยู่ใหม่แล้วคือบ้านเลขที่ 45/323 หมู่ที่ 5 ถนนสุขาภิบาล 1แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 4 ได้รับคำบังคับโดยชอบแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนหมายบังคับคดี และกรณีนี้ปรากฎว่าจำเลยที่ 4 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลในวันนัดถือได้ว่าจำเลยที่ 4 ไม่ติดใจดำเนินการตามคำร้องของจำเลยที่ 4 ต่อไป จึงไม่มีกรณีที่จะไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 4 อีก
พิพากษายืน

Share