คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3856/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คณะกรรมการตรวจการจ้างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ผู้ว่าจ้างตั้งขึ้นเพื่อตรวจรับมอบงานที่โจทก์ได้ทำตามสัญญาจ้างว่าถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ แล้วเสนอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก, นั้น ไม่มีอำนาจในการที่จะสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ซึ่งเป็นคู่สัญญากับโจทก์เท่านั้นที่มีอำนาจที่จะรับมอบงานจากโจทก์หรือไม่
เมื่อโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ไปขอรับเงินค่าจ้าง องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ได้เรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญา แสดงว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. หาได้ยอมรับมอบงานโดยมิได้อิดเอื้อนอันจะทำให้โจทก์พ้นจากความรับผิดในการส่งมอบเนิ่นช้าตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 597 ไม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. แจ้งแก่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ที่ให้มารับเงินแทนว่าจะหักเงินค่าปรับจากเงินค่าจ้าง ถือว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. ได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 แล้ว จำเลยจึงมีสิทธิเรียกเบี้ยปรับจากโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ทำการก่อสร้างบ้านพักครูที่โรงเรียนในอำเภอชานุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร รวม ๔ หลัง ตกลงค่าจ้างหลังละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท และจะจ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์รวม ๒ งวด โจทก์ได้รับค่าจ้างงวดแรกแล้ว แต่ค่าจ้างงวดที่สองจำเลยไม่ยอมจ่ายโดยอ้างว่าโจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดตามสัญญา จำเลยจะหักค่าปรับจากเงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับ โจทก์ไม่ยอมให้ปรับ เพราะโจทก์ได้ก่อสร้างตามแบบในสัญญา แต่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างไม่สามารถตอกเสาเข็มได้ โจทก์จำเป็นต้องขยายฐานราก แต่ไม่มีแบบแปลนแนบท้ายสัญญา โจทก์หารือคณะกรรมการตรวจการจ้างและจำเลยแล้ว ไม่อาจลงความเห็นได้ จำเลยปล่อยเวลาล่วงเลยมานานจึงหารือไปยังกรมสามัญศึกษา ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ โจทก์ได้รับหนังสือสั่งการแจ้งรายละเอียดและขนาดขยายฐานรากจากจำเลย ทำให้กำหนดระยะเวลาการก่อสร้างตามสัญญาเสียไป ๗๕ วัน โจทก์ขอขยายระยะเวลาการทำงาน จำเลยปฏิเสธ จำเลยใช้สิทธิตามสัญญาโดยไม่สุจริต จำเลยได้รับมอบงานตามสัญญาแล้วโดยไม่ทักท้วงสงวนสิทธิ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินค่าจ้างตามสัญญาให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๔๘๕,๐๐๐ บาท จำเลยก่อให้เกิดความล่าช้าในการทำงานทำให้โจทก์เสียหายคิดเป็นเงิน ๑๑๗,๐๐๐ บาท และจำเลยต้องเสียดอกเบี้ย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๗๐๕,๖๕๖.๒๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ตามสัญญาจ้างกำหนดว่าหากโจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่าสัญญา โจทก์ยอมให้ปรับวันละ ๔๕๐ บาท งานงวดแรกแล้วเสร็จตามสัญญา และจำเลยจ่ายเงินให้แล้ว ส่วนงวดที่สอง โจทก์ส่งงานล่าช้ากว่ากำหนดตามสัญญา ๖๔ วัน จำเลยมีสิทธิปรับรวมเป็นเงิน ๒๔๔,๒๐๐ บาท และโจทก์ต้องชำระภาษีตามสัญญาจ้างหัก ณ ที่จ่าย เป็นเงิน ๑๘,๗๒๐ บาท คงเหลือเงินที่จำเลยต้องจ่ายให้โจทก์ ๓๐๗,๐๘๐ บาท จำเลยให้โจทก์มารับ แต่ตัวแทนของโจทก์ไม่ยอมรับจำเลยจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ย จำเลยบอกสงวนสิทธิที่จะปรับโจทก์ตามสัญญา การส่งมอบงานล่าช้าทำให้จำเลยเสียหาย เมื่อรวมเงินค่าปรับและค่าภาษีแล้วรวมเป็นเงินที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย ๒๗๗,๔๒๐ บาท จำเลยจึงขอถือเป็นฟ้องแย้ง และขอพักกลบลบหนี้จากค่าก่อสร้าง คงเหลือเงินที่โจทก์ควรได้รับจากจำเลยเพียง ๓๐๗,๐๘๐ บาท
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากโจทก์ ทั้งคณะกรรมการตรวจการจ้างและจำเลยไม่เคยบอกกล่าวสงวนสิทธิที่จะเรียกค่าปรับจากโจทก์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิหักเงินค่าปรับจากเงินค่าก่อสร้าง ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ระหว่างพิจารณา ได้มีพระราชบัญญัติโอนกิจการบริหารโรงเรียนประชาบาลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและโรงเรียนประถมศึกษาของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ศาลหมายเรียกสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติเป็นจำเลยแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๘๕,๐๐๐ บาทแก่โจทก์ โดยให้นำเงินเบี้ยปรับที่โจทก์ต้องชำระแก่จำเลยจำนวน ๑๑๕,๒๐๐ บาท มาหักกลบลบหนี้ คำขออื่นของโจทก์ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การรับมอบงานจากโจทก์องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้ตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้างเพื่อตรวจรับมอบงานที่โจทก์ได้ทำตามสัญญาจ้างว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วเสนอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรเท่านั้น ไม่มีอำนาจในการที่จะสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับแต่อย่างใด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรซึ่งเป็นคู่สัญญากับโจทก์เท่านั้นที่มีอำนาจที่จะรับมอบงานจากโจทก์หรือไม่ คดีนี้ฟังได้ว่า เมื่อโจทก์มอบอำนาจให้นายอำพลไปขอรับเงินค่าจ้าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้เรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญา นายอำพลไม่ยอมรับจำนวนเงินค่าจ้างที่เหลือจากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้หักไว้เป็นเบี้ยปรับตามสัญญาปรากฏตามบันทึกเอกสารหมาย ป.จ.๑๓ แสดงให้เห็นชัดว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรหาได้ยอมรับมอบงานโดยมิได้อิดเอื้อนไม่ ซึ่งจะทำให้โจทก์พ้นจากความรับผิดเพื่อการที่ส่งมอบเนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๔๗ และการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรแจ้งแก่ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้มารับเงินแทนว่าจะต้องหักค่าปรับจากเงินค่าจ้าง กรณีถือได้ว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๘๐ จำเลยจึงมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับจากโจทก์ได้ และที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดเบี้ยปรับโจทก์มานั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share