คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3853/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายโจทก์และทนายจำเลยต่างยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุป่วยเจ็บของทนายความมาแล้วฝ่ายละครั้ง และศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีทั้งสองนัด ครั้งที่สามทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีอ้างว่าป่วยเจ็บกะทันหันโดยมีใบรับรองแพทย์ที่ขอผัดส่งต่อศาลในอีก 3 วันต่อมาระบุว่า ในวันนัดดังกล่าวแล้วทนายโจทก์ป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรง ทั้งทนายจำเลยก็มิได้คัดค้านว่า ทนายโจทก์มิได้ป่วยจริง เมื่อได้ความว่าทนายโจทก์ป่วยเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ซึ่งศาลชอบที่จะสั่งเลื่อนการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปได้เท่าที่จำเป็น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้สืบสันดานและทายาทโดยธรรมของนายเต็งเอ็ง แซ่เตีย ผู้มรณะ จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้กองมรดกของนายเต็งเอ็ง โดยก่อนถึงแก่กรรมนายเต็งเอ็งได้สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ แต่เมื่อถึงกำหนดปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ทวงถามทายาทของนายเต็งเอ็งและจำเลยทั้งสองแล้ว แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า เช็คที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ของบิดาจำเลยทั้งสองลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อปลอม บิดามารดาของจำเลยทั้งสองไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยทั้งสองจึงไม่ใช่ผู้สืบสันดานหรือทายาทของบิดา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนนัดแรก โจทก์ขอเลื่อนอ้างว่า พยานโจทก์ป่วย จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อน นัดที่สองจำเลยขอเลื่อนอ้างว่า ทนายจำเลยป่วยเป็นไข้หวัด โจทก์ไม่ค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อน นัดที่สามโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าทนายโจทก์เกิดเจ็บป่วยลงโดยกะทันหัน จะเสนอใบรับรองแพทย์ในภายหลัง จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี จึงไม่อนุญาตให้เลื่อน และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ให้งดสืบพยานจำเลยด้วย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนนัดแรกเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๒๗ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าโจทก์ป่วยตามหนังสือรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง โดยโจทก์ยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานทนายจำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์อ้างเหตุป่วยเจ็บ จำเลยมิได้คัดค้านว่าทนายโจทก์มิได้ป่วย จึงอนุญาตให้เลื่อน วันนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สองเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าทนายจำเลยทั้งสองป่วยโจทก์ไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนโดยกำชับให้โจทก์เตรียมพยานมาสืบให้พร้อมและกำชับฝ่ายจำเลยว่านัดหน้าศาลจะไม่ให้เลื่อนคดีเพราะเหตุป่วยหรือเหตุใดๆ อีกวันนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สามเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๗ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ทนายโจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๗ ขอเลื่อนอีกอ้างว่าทนายโจทก์เดินทางไปจังหวัดลพบุรีเกี่ยวกับเรื่องคดี เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครตอนเช้าและเกิดเจ็บป่วยลงโดยกะทันหันไม่สามารถมาศาล ทนายโจทก์จะเสนอใบรับรองแพทย์ต่อศาลในภายหลัง เห็นว่าการเลื่อนคดี ๒ นัดก่อนทนายโจทก์และทนายจำเลยต่างยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างเหตุป่วยเจ็บของทนายฝ่ายละครั้ง ครั้งสุดท้ายทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วยเจ็บโดยกะทันหันและปรากฏว่าทนายโจทก์ส่งใบรับรองแพทย์ต่อศาลในอีก ๓ วันต่อมา โดยแพทย์ระบุว่าตรวจร่างกายของทนายโจทก์ในวันนัดดังกล่าวแล้ว ทนายโจทก์ป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรง การขอเลื่อนของทนายโจทก์ในวันนัดที่สามเป็นเพราะความป่วยเจ็บของทนายโจทก์โดยมีใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน ทั้งทนายจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าทนายโจทก์มิได้ป่วยจริง เมื่อได้ความว่าทนายโจทก์ป่วย ย่อมถือได้ว่ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๔๐ ซึ่งศาลชอบที่จะสั่งเลื่อนการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปได้เท่าที่จำเป็น ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share