คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3848/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ได้แต่งตั้ง ส. เป็นทนายของตน โดยระบุไว้ในใบแต่งทนายความว่าให้มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้ด้วยเมื่อทนายจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมไปแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันจำเลยที่ 2 แม้จะฟังเป็นความจริงว่า ทนายจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยยอมรับจะผ่อนชำระเงินแต่ละงวดเกินกว่าจำนวนที่จำเลยที่ 2ได้บอกแก่ทนายจำเลยที่ 2 ไว้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 2กับทนายของตนจำเลยที่ 2 ไม่อาจจะยกเหตุดังกล่าวขึ้นอ้างเพื่อให้เปลี่ยนแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาตามยอมได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 587,616 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 415,930 บาท และค่าฤชาธรรมเนียมโดยให้ชำระทั้งหมดภายใน 6 เดือน หากผิดนัดให้บังคับคดียึดที่ดินจำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ หากไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า นายสมยศทนายจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ไปโดยพลการ นอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับมอบหมายโดยจำเลยที่ 2 มอบหมายให้นายสมยศเจรจาขอผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์เดือนละไม่เกิน 30,000 บาท แต่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความคำนวณแล้วจำเลยที่ 2 ต้องชำระเดือนละประมาณ 100,000 บาท ซึ่งเกินความสามารถของจำเลยที่ 2 ขอให้นัดพร้อมหรือไต่สวนคำร้องเพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยที่ 2 ได้เจรจาตกลงกับโจทก์โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่าไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงได้ดังที่จำเลยขอ ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ได้แต่งตั้งนายสมยศวัฒนนุกูลเกียรติเป็นทนายของตน โดยระบุไว้ในใบแต่งทนายความว่าให้มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้ด้วย เมื่อทนายจำเลยที่ 2ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมไปแล้วคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันจำเลยที่ 2 แม้จะฟังเป็นความจริงว่าทนายจำเลยที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยยอมรับจะผ่อนชำระเงินแต่ละงวดเกินกว่าจำนวนที่จำเลยที่ 2ได้บอกแก่ทนายจำเลยที่ 2 ไว้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 2กับทนายของตน จำเลยที่ 2 ไม่อาจจะยกเหตุดังกล่าวขึ้นอ้างเพื่อให้เปลี่ยนแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาตามยอมได้ดังนั้น จึงไม่มีเหตุที่จะต้องนัดพร้อมหรือทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2532 ดังกล่าวแต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share