แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อันที่ดินซึ่งมีโฉนดนั้นจะยกแบ่งให้กันโดยปากเปล่าไม่แบ่งแยกโอนทะเบียนก็หาใช้ได้ไม่ยังต้องถือว่าเป็นของผู้มีชื่อในโฉนดผู้มีชื่อในโฉนดตายจึงตกเป็นมรดกที่จะต้องแบ่งปันกันต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ามารดาโจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนด มารดาตายโจทก์จำเลยครอบครองที่ดินร่วมกันมา จำเลยที่ 1, 3 ลอบเอาโฉนดไปโอนรับมรดกและใส่ชื่อจำเลยที่ 2 ด้วย จึงขอให้เติมชื่อโจทก์ในโฉนดถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ
จำเลยทั้งสามให้การว่ามารดาแบ่งให้จำเลยทั้งสามเท่า ๆ กันก่อนมารดาตาย 5 ปี และได้เข้าครอบครองมาจนบัดนี้ 10 ปีเศษแล้วโจทก์ไม่เคยครอบครองร่วมและได้แบ่งทรัพย์ไปก่อนแล้วคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เติมชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนด
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ก็ดีและจำเลยก็ดีอ้างว่ามารดายกที่ดินแบ่งให้นั้นจะถือว่าเป็นการให้โดยเด็ดขาดยังไม่ได้ นอกจากเป็นการให้ทำกินหรือแสดงว่าจะให้ในภายหลังเพราะที่ดินรายนี้มีโฉนด จะแบ่งให้กันโดยปากเปล่าไม่แบ่งแยกโอนทะเบียนหาใช้ได้ไม่ ต้องถือว่ายังเป็นที่ดินของนางเนี่ยม เมื่อนางเนี่ยมตายที่ดินรายนี้จึงเป็นมรดก (ที่ต้องแบ่งปันกัน)
จึงพิพากษายืน