แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ท. สามีจำเลยทะเลาะกับ ม. ห่างบ้านจำเลยประมาณ 6-7วาจำเลยยืนอุ้มบุตรอยู่เฉยๆ ไม่ได้เข้าร่วมโต้เถียงหรือเข้าร่วมกระทำการใดๆ กับ ท.ท. ชักปืนสั้นยิง ม.4-5 นัด พ.วิ่งเข้ามาช่วยท.จึงยิงพ.1 นัดพ.เข้าปล้ำแย่งปืนจากท.ได้ขณะแย่งปืนกันท. ร้องบอกจำเลยให้ไปเอาปืนลูกซองยาวบนบ้าน จำเลยจึงไปหยิบปืนนั้นมาให้ ท.ท.ใช้ปืนยิงพ.2 นัดแต่ไม่ถูกดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นเพียงสนับสนุนการกระทำความผิดของท.ฐานพยายามฆ่าเท่านั้นหาใช่ร่วมเป็นตัวการกับท. ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายทองใสสามีจำเลยร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายพิลาโดยเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผล ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 86
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในวันเกิดเหตุนายทองใสสามีจำเลยทะเลาะกับนางม้วนซึ่งเป็นภรรยาของนายพิลาพี่ชายของนายทองใส อยู่ห่างบ้านจำเลยประมาณ 6 – 7 วา จำเลยยืนอุ้มบุตรอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เข้าร่วมโต้เถียงหรือเข้าร่วมกระทำการใด ๆ กับนายทองใส นายทองใสชักอาวุธปืนสั้นยิงนางม้วน 4 – 5 นัด ถึงแก่ความตาย นายพิลาวิ่งเข้าไปช่วย นายทองใสยิงนายพิลา 1 นัด กระสุนปืนถูกโคนขาซ้ายของนายพิลา นายพิลาเข้าปล้ำแย่งปืนจากนายทองใสได้ ขณะแย่งปืนกันนายทองใสร้องบอกจำเลยให้ไปเอาอาวุธปืนลูกซองยาวบนบ้านจำเลยจึงวิ่งขึ้นบ้านหยิบอาวุธปืนนั้นมาให้นายทองใสและนายทองใสใช้อาวุธปืนนั้นยิงนายพิลาไป 2 นัด แม้จำเลยจะทราบได้ว่าถ้าเอาอาวุธปืนมาให้นายทองใส นายทองใสย่อมจะต้องใช้ยิงนายพิลา แต่จำเลยอาจหยิบอาวุธปืนให้เพราะกลัวว่านายพิลาแย่งอาวุธปืนสั้นได้แล้วจะใช้ยิงนายทองใส จำเลยจึงไปหยิบอาวุธปืนมาให้นายทองใสเพื่อใช้ต่อสู้ โดยจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่านายพิลามาแต่ต้นตลอดมาดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นเพียงการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่นายทองใสจะยิงนายพิลา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของนายทองใส
พิพากษายืน
