แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนี้ที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้เป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และหนี้อย่างอื่นของผู้เช่าอันเกิดจากความเกี่ยวพันในเรื่องเช่าอาคารพาณิชย์ ผู้ร้องมีบุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพย์ตามป.พ.พ. มาตรา 259 (1) แต่คดีนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดสิทธิการเช่า ไม่ได้ขอบังคับเอาจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดสังหาริมทรัพย์ที่ผู้เช่านำเข้ามาไว้ในที่ดินหรือโรงเรือนตาม ป.พ.พ. มาตรา 261 วรรคหนึ่ง, วรรคสอง ทั้งมิใช่เงินอันผู้โอนหรือผู้ให้เช่าช่วงจะพึงได้รับจากผู้รับโอนหรือผู้เช่าช่วงตาม ป.พ.พ. มาตรา 262 ผู้ร้องจึงไม่มีบุริมสิทธิพิเศษเหนือเงินจากการขายทอดตลาด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอกันส่วนตามป.วิ.พ. มาตรา 287 เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท ตามตาราง 1 ท้าย ป.วิ.พ. ข้อ (2)(ก)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์ ต่อมาโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 405 และ 407 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จำเลยเช่าจากผู้ร้องขายทอดตลาดเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องขอให้มอบเงินจำนวน 136,798.60 บาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ผู้ร้องมีบุริมสิทธิ ผู้ร้องขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดสิทธิการเช่าแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
จำเลยยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดสิทธิการเช่า โดยอาศัยบุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่ ผู้ร้องฎีกาว่า เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดสิทธิการเช่าเป็นเงินที่ผู้โอนหรือผู้ให้เช่าช่วงจะพึงได้รับจากผู้รับโอนหรือผู้เช่าช่วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 262 ประกอบกับข้อสัญญาที่จำเลยทำไว้กับผู้ร้อง ผู้ร้องย่อมนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด 108,000 บาท นำมาคำนวณเป็นเงินค่าตอบแทนการโอนสิทธิการเช่าในอัตราร้อยละ 15 เป็นการชอบด้วยกฎหมาย และฎีกาว่าผลบังคับของบุริมสิทธิในมูลเช่าอสังหาริมทรัพย์ นอกจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 260 แล้ว ยังมีมาตรา 262 ขยายออกไปอีก ผู้ร้องจึงมีบุริมสิทธิในหนี้ค่าเช่า ค่าภาษีโรงเรือนที่ได้ชำระไปแทนจำเลย ค่าตอบแทนการโอนสิทธิตามสัญญาเช่า และขอรับชำระหนี้ในฐานะเป็นหนี้บุริมสิทธิได้ นั้น ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นโดยอ้างเหตุผู้ร้องเป็นผู้ให้เช่า จำเลยติดค้างค่าเช่า ค่าภาษีโรงเรือนและค่าปรับเงินเพิ่มที่ผู้ร้องออกแทนจำเลยและเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าของจำเลยให้ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ผู้ร้องมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนการโอนสิทธิการเช่าที่ได้ตกลงกันไว้กับจำเลยในสัญญาเช่าร้อยละ 15 ของเงินค่าตอบแทนโอนสิทธินั้น เห็นว่า แม้หนี้ที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้เป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และหนี้อย่างอื่นของผู้เช่าอันเกิดจากความเกี่ยวพันในเรื่องเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 405 และ 407 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ร้องมีบุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 259 (1) ซึ่งมาตรา 261 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บุริมสิทธิของผู้ให้เช่าที่ดินนั้นมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายอันผู้เช่าได้นำเข้ามาไว้บนที่ดินที่ให้เช่า หรือนำเข้ามาไว้ในเรือนโรงอันใช้ประกอบกับที่ดินนั้น และมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์เช่นสำหรับที่ใช้ในที่ดินนั้น กับทั้งเหนือดอกผลอันเกิดจากที่ดินซึ่งอยู่ในครอบครองของผู้เช่านั้นด้วย” และวรรคสอง บัญญัติว่า “บุริมสิทธิของผู้ให้เช่าเรือนโรงย่อมมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้เช่านำเข้ามาไว้ในเรือนโรงนั้นด้วย” แต่คดีนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดสิทธิการเช่า ไม่ได้ขอบังคับเอาจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดสังหาริมทรัพย์ที่ผู้เช่านำเข้ามาไว้ในที่ดินหรือโรงเรือน ทั้งมิใช่เงินอันผู้โอนหรือผู้ให้เช่าช่วงจึงพึงได้รับจากผู้รับโอนหรือผู้เช่าช่วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 262 ผู้ร้องจึงไม่มีบุริมสิทธิพิเศษเหนือเงินจากการขายทอดตลาด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยกคำร้องของผู้ร้องศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น สำหรับฎีกาของผู้ร้องในข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัย
อนึ่ง คดีนี้เป็นกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอกันส่วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เสียค่าขึ้นศาล 200 บาท ตามตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ข้อ (2) (ก) ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลทั้งสามศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกินมาแก่ผู้ร้อง
พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลทั้งสามศาลส่วนที่เกินกว่า 200 บาท แก่ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ