คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกของโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยเข้าอยู่โดยละเมิดไม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าจำเลยต่อสู้ว่าบิดาจำเลยเช่าตึกของโจทก์ในนามของห้างหุ้นส่วน ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว และจำเลยก็เป็นหุ้นส่วนด้วย สัญญาเช่ายังไม่หมดอายุ และว่าจำเลยได้เข้าอยู่ในตึกเช่าร่วมกับบิดาตลอดมา เมื่อบิดาถึงแก่กรรมจำเลยก็ได้แจ้งความจำนงขอถือสัญญาเช่าต่อไปและได้แจ้งให้โจทก์ทราบเป็นหนังสือภายในกำหนด 30 วันแล้ว ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมเช่า ฯลฯ ดังนี้แม้ศาลจะไม่ยอมให้จำเลยสืบพยานในข้อที่ว่าห้างหุ้นส่วนเป็นผู้เช่าไม่ได้ เพราะเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารก็ตาม ศาลก็ยังต้องให้สืบพยานในประเด็นข้อหลัง คือจำเลยได้อาศัยอยู่ในตึกรายนี้ร่วมกับบิดา ซึ่งเป็นผู้เช่า และเมื่อบิดาตาย จำเลยได้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือขอเช่าต่อไปกับโจทก์ภายในกำหนด 30 วัน ฯลฯ จริงหรือไม่ก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายขยานจันทร์ เช่าตึกของโจทก์ไว้ นายขยายจันทร์ถึงแก่กรรม สัญญาเช่าเป็นอันระงับไป ต่อมาจำเลยได้บังอาจทำการประกอบการค้าในตึกรายนี้ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า สัญญาเช่ารายนี้นายขยายจันทร์บิดาจำเลยได้ตกลงกับโจทก์ ทำไว้ในนามของห้างหุ้นส่วน “ขยานจันทร์แอนด์ซัน” ห้างนี้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จำเลยเป็นหุ้นส่วนด้วยสัญญาเช่ายังไม่สิ้นกำหนด จำเลยเข้าอยู่อาศัยในตึกรายนี้ร่วมกับบิดามาตั้งแต่แรกเช่าจนบัดนี้ เมื่อบิดาจำเลยถึงแก่กรรมแล้วจำเลยก็ได้แจ้งให้โจทก์ทราบเป็นหนังสือภายใน ๓๐ วัน แสดงความจำนงขอถือสัญญาเช่านั้นต่อไป จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญาเช่าทำในนามของนายขยานจันทร์ การที่จำเลยจะสืบพยานผันแปรให้เห็นว่าทำในนามของห้างหุ้นส่วนเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเช่า เมื่อเป็นดังนี้ข้อที่จำเลยอ้างว่าได้แจ้งให้โจทก์ทราบภายใน ๓๐ วันที่นายขยานจันทร์ถึงแก่กรรมเพื่อขอเช่าต่อไป จึงไม่ใช่ข้อสำคัญประเด็นข้อค่าเสียหายโจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกร้อง จึงพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะตั้งข้อหาเป็นเรื่องละเมิดไม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าก็ดี แต่ตามคำให้การของจำเลย ๆ ตั้งประเด็นขึ้นต่อสู้คดีของโจทก์เป็น ๒ ประการ กล่าวคือว่าห้างหุ้นส่วนขยานจันทร์แอนด์ซันเป็นผู้เช่า แม้นายขยานจันทร์ผู้เซ็นสัญญาเช่าตายไปแล้ว ห้างหุ้นส่วนและจำเลยผู้เป็นหุ้นส่วนยังอยู่ในตึกเช่ารายนี้ไม่ใช่กรณีละเมิดประการหนึ่ง
และว่าจำเลยได้อาศัยอยู่ในตึกเช่ารายนี้ร่วมกับนายขยานจันทร์ผู้เช่า ซึ่งเป็นบิดาจำเลย เมื่อนายขยานจันทร์จำเลยได้ให้คนไปติดต่อขอถือสัญญาเช่าตึกรายนี้ต่อไป และได้แล้วเป็นหนังสือให้โจทก์ทราบภายใน ๓๐ วันจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ อีกประการหนึ่ง แม้ศาลล่างทั้งสองจะวินิจฉัยว่า จำเลยจะขอสืบพยานว่าห้างหุ้นส่วนขยายจันทร์แอนด์ซัน เป็นผู้เช่าไม่ได้ก็ดี การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีให้ขับไล่จำเลยโดยถือว่า ประเด็นหลังไม่สำคัญนั้นศาลฎีกาไม่เห็นด้วย เพราะประเด็นข้อหลังนี้ยังไม่ได้สืบพยานกับศาลอุทธรณ์สั่งให้สืบพยานในประเด็นข้อนี้ชอบด้วยรูปคดีแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share