แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกฐานลักทรัพย์ถูกจำคุก 1 ปี ครั้งที่ 2 ฐานรับของโจร ถูกจำคุก 8 เดือนและครั้งหลังฐานลักมะพร้าว 5 ลูก จำเลยกระทำผิดเป็นระยะ ๆ ในระหว่าง 7 ปี แม้ครั้งหลังจะเป็นทรัพย์เพียงเล็กน้อยก็ดี ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของ พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๖ เดือนตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓ เพิ่มโทษทวีคูณตามมาตรา ๗๔ เป็นจำคุก ๑ ปี ลดฐานรับสารภาพตามมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๖ เดือน เมื่อพ้นโทษแล้วส่งไปกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ มาตรา ๘,๙ มีกำหนด ๓ ปี มีดของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้งดโทษกักกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสีย นอกนั้นคงยืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว ๒ ครั้ง ๆ แรกฐานลักทรัพย์ ถูกจำคุก ๑ ปี ครั้งที่ ๒ ฐานรับของโจรถูกจำคุก ๘ เดือน และครั้งหลังฐานลักมะพร้าว ๕ ลูก ซึ่งจำเลยกระทำผิดเป็นระยะ ๆ ในระหว่าง ๗ ปี แม้จะเป็นทรัพย์เพียงเล็กน้อยก็ดี ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของพ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ
จึงพิพากษาแก้ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลอาญา