แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายมอบเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คระบุชื่อให้จำเลยนำไปเข้าบัญชีของผู้เสียหาย แต่จำเลยกลับนำไปให้ผู้สั่งจ่ายออกเช็คฉบับใหม่เป็นเช็คผู้ถือ แล้วจำเลยนำเช็คฉบับใหม่ไปขึ้นเงินจากธนาคารและหลบหนีไป การที่จำเลยรับเช็คฉบับใหม่มาแล้วนำไปขึ้นเงินจากธนาคารนั้น เป็นการครอบครองเช็คแทนผู้เสียหาย เพราะผู้สั่งจ่ายเจตนาจ่ายเช็คให้แก่ผู้เสียหาย ไม่ได้จ่ายให้จำเลย เมื่อจำเลยนำเช็คนั้นไปขึ้นเงินมาครอบครองแล้วเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตน จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของห้างหุ้นส่วนจำกัดปอแหลมทอง ผู้เสียหาย ลักเอาเช็คธนาคารทหารไทย จำกัดสาขาชุมแพ เลขที่ 013044 ราคา 3 บาท ของผู้เสียหาย เป็นเช็คขีดคร่อมที่ผู้มีชื่อสั่งจ่ายเงิน 84,850 บาท แก่ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายชูศักดิ์ ชาตะมีนาหุ้นส่วนผู้จัดการไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2525 มาตรา 11 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายจำนวน 84,850 บาท ตามจำนวนเงินตามเช็คด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 จำคุก 3 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 84,850บาท แก่ผู้เสียหาย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ให้จำคุก 1 ปี6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองว่า ผู้เสียหายมอบเช็คพิพาทให้จำเลยนำไปเข้าบัญชีของผู้เสียหาย แต่จำเลยกลับนำเช็คไปให้ผู้สั่งจ่ายออกเช็คฉบับใหม่เป็นเช็คสั่งจ่ายผู้ถือ แล้วจำเลยนำเช็คฉบับใหม่ไปขึ้นเงินจากธนาคารแล้วหลบหนีไป ดังนี้ มีปัญหาว่า การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ เห็นว่านายชูศักดิ์ ชาตะมีนา หุ้นส่วนผู้จัดการของผู้เสียหายเบิกความว่า ได้มอบเช็คซึ่งระบุชื่อ ปอแหลมทอง และเป็นเช็คขีดคร่อมให้จำเลยนำไปเข้าบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดปอแหลมทอง แต่จำเลยกลับนำเช็คฉบับดังกล่าวไปขอแลกเช็คฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเช็คเงินสดจากนางลัดดา ตั้งโนนสูง และนางลัดดาได้เบิกความว่าจำเลยได้นำเช็คมาบอกว่าเถ้าแก่ให้มาเปลี่ยนเช็คเป็นเช็คเงินสดเพื่อจะนำเงินไปจ่ายค่าข้าวสาร พยานจึงออกเช็คฉบับใหม่ให้จำเลยไปและรับเช็คฉบับเก่าที่จำเลยนำมาคืน ดังนี้จะเห็นว่าจำเลยไม่ได้ลักเช็คฉบับที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยไปเข้าบัญชีแต่ได้นำไปคืนให้ผู้สั่งจ่ายแล้วรับเช็คฉบับใหม่มา การที่จำเลยรับเช็คฉบับใหม่มาแล้วนำไปขึ้นเงินจากธนาคารนั้น เป็นการครอบครองแทนผู้เสียหาย เพราะนางลัดดามีเจตนาจะจ่ายเช็คให้แก่ผู้เสียหายไม่ได้จ่ายเช็คให้จำเลย เมื่อจำเลยนำเช็คนั้นไปขึ้นเงินจากธนาคารแล้วครอบครองเงินจำนวนดังกล่าวจึงเป็นการครอบครองแทนผู้เสียหายการที่จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ไม่ใช่ลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฎีกา”
พิพากษายืน