คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้ผู้เสียหาย ต่อมา ม. ได้ตกลงกับผู้เสียหายไม่ให้นำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินในวันที่เช็คถึงกำหนดโดยผู้เสียหายได้ยอมรับเอาเช็คของ ม. ซึ่งมีจำนวนเงินเท่ากันไว้แทนเช็คของจำเลย และเมื่อเช็คถึงกำหนดผู้เสียหายก็นำเช็คของ ม. ไปขึ้นเงินจากธนาคาร แสดงว่าผู้เสียหายได้ตกลงเปลี่ยนตัวลูกหนี้และยอมรับเอาเช็คของม. แทนเช็คของจำเลยแล้วเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350 เช็คของจำเลยจึงถูกยกเลิกไป แม้ต่อมาผู้เสียหายนำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินและธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากากรใช้เช็ค.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 (3) ให้จำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าที่โจทก์ฎีกาว่า พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้แน่ชัดว่า จำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์นั้นเห็นว่า เช็คตามเอกสารหมาย จ.1 มีจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย ลงวันที่ 6 กันยายน 2527 จำนวนเงิน 40,000บาท ได้ความจากคำเบิกความของนายเกรียงศักดิ์ วราพฤกษ์ ผู้เสียหายว่า ก่อนถึงวันที่ 6 กันยายน 2527 นางมณีรัตน์ได้ไปขอผู้เสียหายไม่ให้นำเช็คเอกสารหมาย จ.1 ไปขึ้นเงินในวันที่เช็คถึงกำหนด โดยนางมณีรัตน์ได้ออกเช็คให้ผู้เสียหาย 1 ฉบับ ลงวันที่ 6ตุลาคม 2527 จำนวนเงิน 40,000 บาท แทนเช็คเอกสารหมาย จ.1 ต่อมาเมื่อเช็คของนางมณีรัตน์ถึงกำหนด ผู้เสียหายได้นำเช็คของนางมณีรัตน์ไปขึ้นเงินจากธนาคาร ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2527 ผู้เสียหายจึงนำเช็คเอกสารหมาย จ.1 ไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้เสียหายติดต่อจำเลย แต่จำเลยบอกให้ผู้เสียหายไปขอรับเงินจากนางมณีรัตน์ ดังนี้ เมื่อนางมณีรัตน์กับผู้เสียหายตกลงกันไม่นำเช็คเอกสารหมาย จ.1 ไปขึ้นเงินในวันที่เช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระ โดยผู้เสียหายได้ยอมรับเอาเช็คฉบับของนางมณีรัตน์ไว้แทนเช็คเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งมีจำนวนเงินเท่ากับเช็คเอกสารหมาย จ.1 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2527 และเมื่อถึงกำหนด ผู้เสียหายก็นำเช็คของนางมณีรัตน์ไปขึ้นเงินจากธนาคาร แสดงว่าผู้เสียหายได้ตกลงเปลี่ยนตัวลูกหนี้และยอมรับเอาเช็คของนางมณีรัตน์แทนเช็คเอกสารหมาย จ.1 แล้วเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350และเช็คเอกสารหมาย จ.1 จึงถูกยกเลิกไป จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ต่อไป แม้ต่อมาผู้เสียหายได้นำเช็คเอกสารหมาย จ.1 ไปขึ้นเงิน และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล
พิพากษายืน.

Share