แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาประกันตัวจำเลยมีข้อความว่า ในระหว่างประกันนี้ข้าพเจ้าหรือผู้ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวจะขอปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นยอมรับผิดชอบใช้เงินจำนวนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อจำเลยได้รับหมายนัดให้มาฟังคำพิพากษาโดยชอบแล้ว หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามนัดของศาล ถือได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันแล้ว
จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาโดยอ้างเหตุว่าป่วยใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้องแพทย์มีความเห็นว่า จำเลยป่วยด้วยโรคปวดศีรษะ ให้รักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 3 วัน โจทก์มิได้คัดค้าน หากศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยถึงขนาดมาศาลไม่ได้ ก็ชอบที่จะไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อน จะพิเคราะห์เพียงใบรับรองแพทย์แล้วสั่งว่าอาการป่วยของจำเลยไม่ถึงขนาดมาศาลไม่ได้ และถือว่าจำเลยจงใจไม่มาศาลตามนัด แล้วสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันด้วยนั้นจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
กรณีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ ลงโทษจำคุก ๔๕ วัน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังจำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ ระหว่างอุทธรณ์จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยนายสรรพสิทธิ์ สิริโชดก เป็นผู้ประกันทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น หากผิดสัญญายอมรับผิดชดใช้เงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ต่อมาศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และได้ส่งหมายนัดให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว ถึงวันนัดครั้งแรกจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าป่วย ศาลชั้นต้นอนุญาตและเลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๒๗ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ถึงวันนัดจำเลยไม่มาศาล แต่มอบฉันทะให้ผู้อื่นมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าป่วยโดยปวดศีรษะตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง ศาลชั้นต้นสั่งว่าอาการป่วยของจำเลยไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่จะมาศาลไม่ได้ ถือว่าจำเลยจงใจไม่มาศาลตามนัด และถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกันตามสัญญาประกัน
ผู้ประกันอุทธรณ์ว่าไม่ผิดสัญญาประกัน ขอให้งดการปรับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อที่ผู้ประกันฎีกาประการแรกว่าศาลไม่ส่งหมายนัดให้ผู้ประกัน ถือไม่ได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าตามสัญญาประกันข้อ ๒ มีข้อความว่า ในระหว่างประกันนี้ ข้าพเจ้าหรือผู้ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว จะขอปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นข้าพเจ้ายอมรับผิดชอบใช้เงินเป็นจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ศาลจนครบ ตามข้อสัญญาดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ผู้ประกันหรือจำเลยก็ดีจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นผู้ประกันยอมรับผิดใช้เงินตามสัญญาให้แก่ศาลจนครบ ดังนั้นเมื่อจำเลยได้รับหมายนัดให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยชอบแล้วหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามนัด ก็ถือได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาตามที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาประกันข้อ ๒ แล้ว ข้อที่ผู้ประกันฎีกาว่า จำเลยป่วยไม่สามารถมาศาลได้ มิได้จงใจไม่ปฏิบัติตามนัดของศาลศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันเป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่าป่วยและตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลย แพทย์มีความเห็นว่าจำเลยป่วยด้วยโรคปวดศีรษะ ให้รักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ ๓ วัน ซึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้าน หากศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยถึงขนาดมาศาลไม่ได้ก็ชอบที่จะทำการไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อน ที่ศาลชั้นต้นพิเคราะห์เพียงใบรับรองแพทย์ แล้วสั่งว่าอาการป่วยของจำเลยไม่ถึงขนาดที่จะมาศาลไม่ได้และถือว่าจำเลยจงใจไม่มาศาลตามนัด แล้วสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันด้วยนั้น จึงไม่ชอบ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดี