คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การตามกำหนดและศาลได้มีคำสั่งว่า จำเลยขาดยื่นคำให้การแล้วนั้น เมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยมาศาลและแถลงว่าป่วย จึงมิได้ยื่นคำให้การตามกำหนด โจทก์ไม่คัดค้าน เช่นนี้ ศาลชอบที่จะมีคำสั่ง ในรายงานพิจารณาอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในเวลากำหนดโดยไม่จำต้องให้จำเลยทำเป็นคำร้องขอเข้ามาได้ ไม่เป็นการผิดวิธีพิจารณาอย่างใด
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การเกินเวลาที่ศาลนัดไว้ ศาลควรพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้นไว้เสียก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนนาให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย
จำเลยได้รับหมายเรียกแล้วไม่ยื่นคำให้การภายใน ๘ วัน และไม่แจ้งเหตุขัดข้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและให้นัดสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำแถลงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเพราะป่วยและไม่มีตัวแทนมาจัดการให้ ศาลชั้นต้นดอกนั่งพิจารณา จำเลยแถลงยืนยันว่าป่วย โจทก์ไม่คัดค้าน ศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การภายใน ๒๗ ธันวาคม ๒๕๐๑ เวลา ๙.๐๐ น. ถึงวันนัดศาลออกนั่งพิจารณา เวลา ๙.๓๐ น. จดรายงานว่า นัดให้จำเลยยื่นคำให้การและนัดชี้สองสถาน จำเลยไม่มาศาล ให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒๒ เดือนหน้า ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๐.๒๒ น. ทนายจำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยยื่นคำให้การในรายงานพิจารณาเป็นการผิดหลง ให้ยกคำสั่งนั้นเสีย จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การจำเลยแถลงโต้แย้ง คำสั่งนี้
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์และตัวจำเลย แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำให้การจำเลยแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การตามวันเวลาที่ศาลกำหนดใหม่ เป็นการชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา ๑๙๙ วรรคต้น แล้ว เพราะคำแถลงเช่นนี้มิได้มีกฎหมายให้ทำเป็นคำร้อง และศาลก็ไม่ได้กำหนดให้ทำเป็นคำร้องหรือคำแถลงเป็นหนังสือตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๑ (๑) ไม่มีเหตุที่ควรเพิกถอนคำสั่งนั้น แม้จำเลยจะแถลงว่า “ครั้นจะยื่นคำร้องขอสู้คดี ต่อไปก็เกรงจะเป็นการยุ่งยาก” ซึ่งพอจะเข้าใจได้ว่า จำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี แต่เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยเพราะเชื่อว่าจำเลยไม่ได้จงใจขาดนัด ก็ไม่มีอะไรห้าม และไม่ทำให้คำสั่งนั้นเสียไปแต่อย่างใด เมื่อถึงวันนัดยื่นคำให้การจำเลย ๆ มิได้ยื่นคำให้การตามเวลาที่กำหนด ศาลมีคำสั่งเมื่อเวลา ๙.๓๐ น. ให้นัดสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลมีคำสั่งนี้โดยโจทก์มิได้มีคำขอตาม มาตรา๑๙๘ ให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดแต่ประการใด และศาลก็ไม่ได้สั่งเช่นนั้น ครั้นถึงเวลา ๑๐.๒๒ น. วันเดียวกันนั้น จำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นควรพิจารณาว่า ควรรับคำให้การนี้หรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับไว้โดยยังไม่ปรากฏเหตุสมควรจะรับคำให้การนั้นไว้หรือไม่นั้น
ยังไม่ถูกต้องแต่ศาลชั้นต้นก็ยังไม่ได้พิจารณาในข้อนี้ โดยมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมเสีย
จึงพิพากษาแก้ เฉพาะข้อที่ให้รับคำให้การจำเลย โดยให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและมีคำสั่งในการที่จำเลยยื่นคำให้การนั้น และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

Share