แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์นำยึดที่ดินอ้างว่าโฉนดเลขที่ 20174 และตึกแถวเลขที่ 121/13 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าตึกแถวเลขที่ 121/13 มิได้ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 20174 แต่อยู่ทางด้านหน้าของที่ดินโฉนดดังกล่าว การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นติดกันไปจึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อผู้ร้องซึ่งซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดไม่อ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจออกคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะนั้นเสียได้ก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลง โจทก์ทั้งสองและผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และการที่ศาลชั้นต้นได้ทำการตรวจสอบฟังคำแถลงของผู้ร้องและโจทก์ทั้งสองแล้วเห็นว่ามีการผิดพลาด ย่อมถือได้ว่าได้มีการไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้ว ทั้งจำเลยทั้งสองก็มิได้คัดค้านคำร้องไม่เป็นความจริง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยไม่ชอบ ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งยกเลิกการบังคับคดีนั้นเสียได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองบังคับคดีนำยึดที่ดินที่อ้างว่าโฉนดเลขที่ ๒๐๑๗๔ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา และตึกแถวเลขที่ ๑๒๑/๑๓ ถนนศุภกิจ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดดังกล่าวเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้โจทก์ทั้งสอง เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาด ในการขายทอดตลาดปรากฏว่านางว่วยเอ็ง ลักขณะวิสิฏฐ์ ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์ดังกล่าวได้ ได้วางเงินค่าซื้อทรัพย์ร้อยละ ๒๕ ของราคาซื้อ เป็นเงิน ๖๕,๐๐๐ บาท ต่อศาลชั้นต้นแล้ว ต่อมาปรากฏว่าตึกแถวดังกล่าวไม่ได้ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินนั้น โดยที่ดินโฉนดที่ ๒๐๑๗๔ อยู่ทางด้านหลังของตึกแถวดังกล่าว โจทก์ทั้งสองกับนางว่วยเอ็งผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าซื้อทรัพย์โดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการขายทอดตลาดและคืนเงิน ๖๕,๐๐๐ บาท แก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นตรวจสอบหลักฐานแล้วได้ความตามคำร้องของโจทก์ทั้งสองและนางว่วยเอ็งผู้ร้อง จึงมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด และคืนเงินจำนวน ๖๕,๐๐๐ บาท แก่ผู้ร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นตรวจสอบหลักฐานแล้วได้ความตามคำร้องของโจทก์ทั้งสองและนายว่วยเอ็ง ลักขณะวิสิฏฐ์ ผู้ร้องซึ่งซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดว่า ตึกแถวเลขที่ ๑๒๑/๑๓ ถนนศุภกิจ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา มิได้ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ ๒๐๑๗๔ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามที่โจทก์ทั้งสองนำยึดเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้โจทก์ทั้งสอง แต่ตึกแถวดังกล่าวอยู่ทางด้านหน้าของที่ดินโฉนดดังกล่าว จึงเห็นได้ว่าการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นติดกันไปจึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อผู้ร้องไม่อ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๐ ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจออกคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะนั้นเสียได้ก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลง โจทก์ทั้งสองและผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และการที่ศาลชั้นต้นได้ทำการตรวจสองฟังคำแถลงของผู้ร้องและโจทก์ทั้งสองแล้วเห็นว่ามีการผิดพลาด ย่อมถือได้ว่ามีการไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้ว ทั้งจำเลยทั้งสองก็มิได้คัดค้านว่าคำร้องไม่เป็นความจริง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยไม่ชอบ ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งยกเลิกการบังคับคดีนั้นเสียได้
พิพากษายืน