คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยและไม่มีสาเหตุกัน จำเลยเข้าไปเอาปืนของผู้เสียหายต่อหน้าเด็กหญิง อ. บุตรของผู้เสียหายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเฝ้าข้าวในนา โดยมิได้เอาทรัพย์สินอย่างอื่นในบ้านของผู้เสียหายด้วย แสดงว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปโดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8) จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่า จำเลยกับผู้เสียหายเป็นคู่เขยกัน โดยจำเลยแต่งงานกับพี่สาวภริยาผู้เสียหายจำเลยและผู้เสียหายไม่เคยมีสาเหตุกันมาก่อน ขณะจำเลยไปเอาปืนของผู้เสียหายมีทรัพย์สินอย่างอื่นรวมทั้งเครื่องรับวิทยุเทปกระเป๋าหิ้วอยู่ในบ้านผู้เสียหายด้วย ซึ่งจำเลยอ้างว่าเอาปืนผู้เสียหายไปเพื่อเฝ้าข้าวในนา ตามพฤติการณ์เห็นว่า การที่จำเลยเข้าไปเอาปืนผู้เสียหายไปก็โดยถือวิสาสสะในความเป็นญาติ ไม่มีเจตนาทุจริตที่จะลักทรัพย์รายนี้มิฉะนั้นก็คงไม่กล้ากระทำต่อหน้าเด็กหญิงอุ่นเรือนบุตรผู้เสียหาย และน่าจะเอาเครื่องรับวิทยุเทปและของอื่นของผู้เสียหายไปด้วย เมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องนี้ ก็เพียงแต่นำใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนไปแสดงแก่พนักงานสอบสวนเพื่อขออาวุธปืนคืนเท่านั้น ไม่ปรากฏจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่า ได้แจ้งความกล่าวหาจำเลยว่าจำเลยลักอาวุธปืนไป แสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายตระหนักดีว่าจำเลยเอาอาวุธปืนไปก็โดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติกัน ชั้นสอบสวนจำเลยก็ให้การว่าเอาปืนของผู้เสียหายไปเพื่อเฝ้าข้าวในนา จากข้อเท็จจริงดังกล่าวเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต อันจะเป็นความผิดดังโจทก์ฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share